TOA โกยหุ้นซื้อคืนเต็มลิมิต ทุ่มเงินลงทุน 759.29 ล้านบาท พบเดือนพ.ค.ราคาหุ้นปรับขึ้น 4.90%

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ได้มีการประชุมครั้งที่ 10/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567

โดยได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน (Treasury Stocks) ครั้งที่ 2 ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,300 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน60,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท หรือคิดเป็นไม่เกิน 2.96%ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นั้น

บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2568 โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน (ครั้งที่ 2) ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อหุ้นทั้งสิ้น 60,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 2.96 ของจำนวน หุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ รวมเป็นมูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้นเท่ากับ 759,296,340 บาท

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นก่อนปิดโครงการซื้อหุ้นคืน ในเดือนพ.ค. 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.90% จากราคา 10.20 บาท เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.70 บาท

ขณะที่บล.ทิสโก้ ระบุว่า  แนะนำ `ซื้อ` TOA มูลค่าที่เหมาะสม 17.60 บาท เนื่องจากเรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยหลังการประชุมนักวิเคราะห์ของ TOA เมื่อเร็วๆ นี้ แม้ว่ายอดขายทั้งปีคาดว่าจะทรงตัว แต่การเติบโตของกำไรน่าจะมาจากการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

ประเด็นสำคัญ : ผลประกอบการใน 1Q25 : กำไรใน 1Q25 แข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง (37.2%) และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำผิดปกติเนื่องจากการโฆษณาที่น้อย อย่างไรก็ตามไตรมาสต่อๆ ไปคาดว่าจะมีกำไรลดลงเนื่องจากความเป็นฤดูกาลและการใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น

แนวโน้มในประเทศ : ผู้บริหารยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการในประเทศไทย (84% ของยอดขายใน 1Q25) โดยอ้างถึงสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ กำลังซื้อที่ซบเซา และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม มีความต้องการเพิ่มขึ้นบ้างสำหรับเคมีภัณฑ์ก่อสร้างหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในเดือนเมษายน

ตลาดต่างประเทศ : ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและเมียนมา แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่มากกว่าและควรช่วยชดเชยความอ่อนแอในประเทศ ทำให้ยอดขายโดยรวมทรงตัว YoY

แนวโน้มอัตรากำไร : อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง แม้จะต่ำกว่าระดับใน 1Q25 เล็กน้อย เนื่องจากราคา TiO2 ยังคงอ่อนตัวท่ามกลางความต้องการทั่วโลกที่อ่อนแอ วัตถุดิบคิดเป็น 70% ของต้นทุนทั้งหมด ทำให้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ

การใช้จ่ายด้านการตลาด : ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน 2Q25 เนื่องจากบริษัทโปรโมทซีรีส์ TOA 2IN1 ใหม่ ซึ่งเป็นสีที่แห้งเร็วพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องใช้สีรองพื้น ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นและลดต้นทุน

มุมมองการลงทุน : เรายังคงประมาณการกำไรและคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TOA โดยได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง มูลค่าที่น่าสนใจ และอัตราเงินปันผลที่สูง มูลค่าที่เหมาะสมยังคงอยู่ที่ 17.60 บาท