Wealth Sharing

เทียบหมัดต่อหมัด 2 ค่ายมือถือ TRUE-ADVANC


26 พฤษภาคม 2568

ในวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เครือข่ายเน็ตทรูได้เกิดปัญหาในการใช้งาน จนทำให้เกิดความขัดข้องแก่ผู้ใช้งานเครือข่ายดังกล่าว ไม่จะเป็นทั้งบนพีซีและสมาร์ทโฟน ซึ่งจนเกิดเป็นกระแสบนโซเชียลจากเหล่าผู้ใช้งาน แต่หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจก็คือการย้ายค่ายมือถือที่มีผู้คนไม่น้อยออกแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางดังกล่าว

เทียบหมัดต่อหมัด 2 ค่ายมือถือ_WS (เว็บ).jpg

ดังนั้น ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trrade จึงได้หยิบข้อมูลของทั้งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE  พร้อมกับมุมมองจากนักวิเคราะห์ถึงปัจจัยพื้นฐานพร้อมกับคำแนะนำการลงทุนมาแบ่งปันกันในครั้งนี้

โดยเริ่มที่ ADVANC ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,584 ล้านบาท เติบโต 25% ช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นไปการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ค่าเสื่อมราคาที่ลดลงจากการตัดค่าเสื่อมราคาเต็มจำนวนของสินทรัพย์โครงข่าย 3Gและบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ

ขณะที่บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น 45.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกัน ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ(ARPU) เฉลี่ยอยู่ที่ 228 บาท เติบโต 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 5.07 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.3% จากช่วงเดียวกัน สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ(ARPU) เพิ่มขึ้นเป็น 518 บาท เพิ่มขึ้น 4.3%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  คาดกำไรในไตรมาส 2/68 จะอยู่ที่ 1.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกัน ได้แรงหนุนจากการแข่งขันในตลาดพรีเพดที่ผ่อนคลายลงตั้งแต่ ก.พ. 68 รวมถึงค่า D&A ที่ทรงตัวและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง 

พร้อมกับปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 ขึ้น 7% ตามการปรับเพิ่มรายได้บริการหลักและปรับลดการค่าใช้จ่ายต่างๆได้แก่SG&A D&A และดอกเบี้ยจ่าย โดยกำไรปี 68 จะอยู่ที่ 43,112 ล้านบาท เติบโต 21% จากปีก่อนหน้า ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 319 บาท เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตกำไรหลักที่แข็งแกร่งและอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ ที่ระดับ 4 - 5% ในปี 68 – 69

สำหรับ TRUE ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,634 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุน โดยเป็นผลจากการลดลงของค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย รวมถึงต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) 

ขณะที่ในไตรมาส 1/68 มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 48.8 ล้านเลขหมาย ลดลง 4.4% จากช่วงเดียวกัน รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ(ARPU) อยู่ที่ 214 บาท เพิ่มขึ้น 5.2% จากช่วงเดียวกัน ขณะที่ผู้ใช้บริการในธุรกิจออนไลน์ มีจำนวนผู้ใช้บริการรรวม 3.8 ล้านราย  เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันโดยมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ(ARPU) อยู่ที่ 524 บาทในไตรมาส 1/68 เพิ่ม 3.7% จากช่วงเดียวกัน

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์  ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า TRUE ประสบปัญหาการให้บริการโทรศัพท์มือถือขัดข้องทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อทั้งบริการเสียงและข้อมูล โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 บริษัทประสบปัญหาอินเทอร์เน็ตขัดข้องในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 52 นาที ในครั้งนั้น สำนักงาน กสทช. สั่งให้ TRUE ชดเชยผู้ใช้บริการด้วยนาทีโทรฟรี 100 นาที และข้อมูล 500MB ซึ่งทั้งคู่ใช้ได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ผลกระทบทางการเงินในปี 2563 มีจำกัด

โดยมีมุมมองว่าแม้ TRUE อาจเสนอแพ็กเกจชดเชยที่คล้ายกับปี 2563 แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะมีขอบเขตกว้างขวางกว่า ทั้งในแง่ของระยะเวลาและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่การชดเชยหรือการตอบสนองจากหน่วยงานกำกับดูแลอาจแตกต่างไปจากครั้งนี้

นอกจากนี้ การขัดข้องนี้เพิ่มความเสี่ยงที่มีอยู่แล้วเรื่องการสูญเสียผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นความกังวลที่ยังคงมีอยู่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจมือถือของ TRUE ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ด้อยกว่า ADVANC และการหยุดชะงักครั้งล่าสุดนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และการรักษาลูกค้าเพิ่มเติม จึงแนะนำ “ขาย” ราคาเหมาะสม 10 บาท

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 จะเติบโต 106% จากช่วงเดียวกัน รวมถึงการเติบโตของกำไรทั้งปี 68 ที่ 18,450 ล้านบาท จะเติบโต 104% โดยปัจจัยที่มีแนวโน้มทำให้ราคาหุ้นขึ้น ได้แก่ ผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง และการแข่งขันประมูลคลื่น 2300MHz ในวันที่ 29 มิถุนายนที่มีแนวโน้มไม่รุนแรง จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.10 บาท

เทียบหมัดต่อหมัด-2-ค่ายมือถือ.jpg