Wealth Sharing

ผวา! กองทุนไทยไตรมาสแรก เงินไหลออกเฉียด 3.6 หมื่นลบ.


16 พฤษภาคม 2568

ในไตรมาสแรกของปี 2568 ได้มีแรงกดดันอย่างการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯแก่ประเทศคู่ค้าทั่วโลก ส่งผลให้เม็ดเงินในตลาดหุ้นทั่วโลกไหลออกไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยหรือนักลงทุนก็เลือกที่จะถือเงินสดไว้กับตัว ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เม็ดเงินต่างชาติไหลออก

ผวา! กองทุนไทยไตรมาสแรก_WS (เว็บ).jpg

ขณะที่เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนไทยต่อตลาดหุ้นไทยก็อาจจะมีการเข้าซื้อมาบ้างแต่ปริมาณการซื้อขายก็ได้เบาบางลง สวนทางกับฝั่งของตลาดกองทุนรวมที่เม็ดได้ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมานำเสนอแก่ผู้อ่าน

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดออกมาให้ข้อมูลว่า ทิศทางเงินลงทุนของกองทุนรวมในไทย นับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 68 จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ประเภทกองทุนที่มีเงินไหลเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ล้วนเป็นกองทุนตราสารหนี้เกือบทั้งหมด 

โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในประเทศ ทั้งที่เป็นตราสารตลาดเงิน ตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารหนี้ระยะกลาง และกองทุนตราสารหนี้แบบผสมทั้งในและต่างประเทศ ภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการหลีกหนีความเสี่ยงของนักลงทุน ในการกลับเข้าสู่การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น

ในทางตรงกันข้าม ประเภทกองทุนที่มีเงินไหลออกมากที่สุด 3 อันดับแรก ล้วนเป็นกองทุนในกลุ่มตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุ หรือที่คุ้นเคยในชื่อ Term fund นอกจากนี้ ยังมีกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศต้นชนวนของเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ กองทุนหุ้นสหรัฐฯมีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมีนาคม คิดเป็นมูลค่ารวมราว 1.2 หมื่นล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองทุนหุ้นสหรัฐฯมีเงินไหลออกประมาณ 4.7 พันล้านบาทในช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน หรือเกือบ 40% ของเงินไหลเข้าตั้งแต่ต้นปี โดยนักลงทุนบางส่วนมีความกังวลว่ามาตรการภาษีที่นำมาใช้อาจส่งผลต่อการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้

นอกจากนี้ กองทุนหุ้นไทยที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) ยังติดอันดับ 5 ของกองทุนที่มีเงินไหลออกสูงสุด โดยมีเงินไหลราว 4 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากความกังวลของมาตรการภาษีที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ ซึ่งอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกได้อย่างมีนัยสำคัญ 

แต่อย่างไรก็ตาม ทิศทางการไหลออกจากกองทุนหุ้นไทยนั้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นจากปัจจัยด้านภาษีนี้เพียงอย่างเดียว โดยหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี พบว่ากองทุนหุ้นไทยในกลุ่มนี้มีเงินไหลออกอย่างต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 3.6 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งปัจจัยกดดันที่สำคัญประการหนึ่งคือการไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนด และความกังวลต่อปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ กองทุนอีกหนึ่งกลุ่มซึ่งอาจเป็นที่จับตามองของตลาด คือ กองทุนหุ้นจีน ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายหลักของการออกมาตรการภาษีของสหรัฐฯในครั้งนี้ แต่พบว่า ระดับเงินไหลออกยังคงค่อนข้างต่ำกว่ากองทุนหุ้นไทยและหุ้นสหรัฐฯ โดยมีเงินไหลออกราว 1.9 พันล้านบาท นับตั้งแต่การประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯในวันที่ 2 เม.ย. 68 

โดยก่อนหน้านี้ กองทุนหุ้นจีนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม โดยมีเงินไหลเข้าราว 1.2 พันล้าน และ 3.2 พันล้านบาท ตามลำดับ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงติดลบในเดือนเมษายน

ผวา!-กองทุนไทยไตรมาสแรก.jpg