ฟอร์มร้อนแรงสุดๆ สำหรับบริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ภายหลังปรับโครงสร้างการธุรกิจเป็น “โฮลดิ้งส์” ล่าสุดติดล้อ โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา มีราคาซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
ความน่าสนใจของ TIDLOR ภายหลังปรับโครงสร้างการธุรกิจเป็น “โฮลดิ้งส์”จะมีความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบในเรื่อง Dilution ของราคาหุ้นและกำไรต่อหุ้น (EPS Dilution)
นอกจากนี้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ของ Tidlor Holdings และกลุ่มบริษัทฯ จะมีความคล่องตัวมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต เพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง ได้อีกด้วย
โดย Tidlor Holdings และกลุ่มบริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ภายใต้แบรนด์ เงินติดล้อ และธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ Face to Face ผ่านช่องทางสาขาภายใต้แบรนด์ ประกันติดโล่ ควบคู่ไปกับการต่อยอดความแข็งแกร่งด้าน InsurTech Platform ภายใต้แบรนด์ อารีเกเตอร์ (Areegator) และ เฮ้ กู๊ดดี้ (heygoody.com)
ยืนยันอีกเสียงจาก นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจส่งผลบวกต่อการบริหารงานมีความคล่องตัวสูงขึ้น ประสิทธิภาพในการบริหารงานสูงขึ้นเพื่อรองรับการประกอบธุรกิจของแต่ละกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะแตกต่างกันในอนาคต
และการบริหารเงินทุนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามที่กำหนดไว้ตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล เพราะบริษัท โฮลดิ้งส์ไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการดำรงสัดส่วนเงินกู้ต่อทุนชำระแล้วไม่เกิน 7:1 เท่า
โดยคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2568 ปรับสูงขึ้น 12% จากปีก่อน หนุนจาก 1.รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับการขยายสินเชื่อ 2.รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น และ 3. สำรองหนี้ฯ ลดลง และคาด ROE แนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14.7% (ปี 67 อยู่ที่ 14.4%) โดยคาดการจ่ายเงินปันผลที่ 0.49 บาท/หุ้น ในปี 2568 บนสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout ratio) ที่ 30% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มองว่า การปรับเป็น Holding Company จะทำให้ TIDLOR มีความคล่องตัวมากขึ้น และลดแรงกดดันต่อราคาหุ้นลงได้ ทั้งนี้ TIDLOR ถือเป็นผู้นำในธุรกิจจำนำทะเบียน มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 30% และเป็นผู้นำในธุรกิจนายหน้าประกัน ซึ่งทำให้มีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันที่ยังโตดีต่อเนื่องช่วยหนุน
ล่าสุดมี ROE ระดับ 15.5% ถือว่าค่อนข้างสูง ประกอบกับมี NPL Coverage ratio ที่สูงสุดในกลุ่มถึง 255% และมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ประกอบกับยังได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยขาลง ทำให้ยังเชื่อว่าปีนี้ TIDLOR ยังมีกำไร 4,723 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน ทำนิวไฮได้อีกปี แนะนำ “ซื้อลงทุน” ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
ขยี้ตา! ITD สุดปัง ไตรมาส 1 ฟาดกำไร 6.76 พันลบ.โต 5,428% หลังเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนเหมืองโปแตช
_0.jpg)
โบรกฯชี้แบงก์ปล่อยกู้ 1 แสนลบ. เยียวยาผู้ส่งออก-SMEs ปมภาษีสหรัฐ อาจไม่คุ้มค่า เสี่ยงต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
%20copy_0.jpg)
การเมืองไทย เป็นเหตุ! ฉุด “โฟลว์ต่างชาติ” เดือนพ.ค. เทขายหุ้นไทยกว่า 108 ล้านเหรียญฯ
_0.jpg)
CLASSIC GOLD เผย 5 เรื่องน่าทึ่งเกี่ยวกับ "ทองคำ" ที่นักลงทุนหลายคนยังไม่รู้
%20copy_0.jpg)