จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : LEO เดินหน้ายุทธศาสตร์ "LEO Go Green" รับกระแสรักษ์โลก หนุนเติบโตอย่างยั่งยืน


09 พฤษภาคม 2568

บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์  (LEO) เกาะกระแสรักษ์โลก เดินหน้ายุทธศาสตร์ "LEO Go Green"ขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  หนุนบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

LEO เดินหน้ายุทธศาสตร์_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ)_0.jpg

แนวทางการลดภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญ และกำหนดเป็นเป้าหมายในการทำธุรกิจ รวมถึงธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก

อย่างบมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) โดยนายเกตติวิทย์  สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ย้ำว่า การดำเนินงานในปี 2568 บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ "LEO Go Green" ที่เน้นการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และขยายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics รวมบริการด้าน Distribution Center /Warehouse

โดยปี 2568  บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ขึ้นเป็น 30-35% ของรายได้รวม และบริษัทมีแผนต่อยอดการให้บริการด้าน Distribution Center / Warehouse รวมถึงการให้บริการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ

นอกจากนี้ LEO ยังเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจในกลุ่ม Freight โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและทางอากาศไปยังประเทศอินเดียและประเทศในกลุ่ม MIDDLE EAST ที่เป็นตลาดมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องและยังมีโอกาสในการขยาย volume การส่งออกอีกมาก  เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการสินค้าคุณภาพดีจากต่างประเทศ

ซึ่งผู้บริหารย้ำว่า หนึ่งในแผนการที่สำคัญของ LEO ในปี 2568 คือการพัฒนาระบบขนส่งรถไฟจีน-ไทย ด้วยตู้ Reefer Containers ให้เป็นระบบแบบขนส่ง Round trip มีสินค้าขาไปและขากลับ ระหว่างประเทศจีน-ไทย โดย LEO จะเป็นผู้จัดหาสินค้าส่งออกจากประเทศไทยมายังจีน และทางฝ่ายจีนก็จะช่วยหาสินค้าส่งออกจากประเทศจีนกลับมายังประเทศไทย โดย LEO มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ End-to-End Global Logistics Service Provider และเครือข่ายของ LaneXang Express ในประเทศจีนและไทยจะสามารถช่วยยกระดับการให้บริการเข้าสู่มาตรฐานสากล ผลักดันให้การขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างจีน-ไทย ให้ประสบความสำเร็จ และสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับผู้ส่งออกและนำเข้าทั้งในประเทศไทยและจีน

ในด้านการขนส่งทางรางระหว่างประเทศนั้น นายเกตติวิทย์เน้นย้ำว่า LEO เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการขนส่งสินค้าทางรางจากไทย ผ่านประเทศลาวจนถึงเมืองคุนหมิง และขยายการส่งต่อสินค้าไปยังเมืองต่างๆ ทั่วประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน ทำให้บริษัทฯ สามารถให้บริการขนส่งทางรางได้อย่างครบวงจร รองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออกผลไม้ สินค้าเกษตร และสินค้าอื่นๆ

LEO มีเป้าหมายให้การขนส่งทางรางเป็นกุญแจสำคัญในการขยายตลาดจีน และคาดว่าปริมาณการขนส่งผลไม้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย LEO ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถให้บริการขนส่งผลไม้ทางรางไปยังประเทศจีนได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางในไทยจนถึงปลายทางในเมืองต่างๆ ของจีน ซึ่ง LEO เชื่อมั่นว่า ปี 2568 รายได้และกำไรขั้นต้นของบริษัทจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาจากการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศไทยกับจีน รวมทั้งธุรกิจของ Non - Logistics Business จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแน่นอน

"เรามั่นใจว่าด้วยการขยายตัวทางธุรกิจในหลายมิติ ทั้งการขนส่งทางราง ธุรกิจ Non-Freight และการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยเสริมฐานรายได้ และผลักดัน LEO ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว" นายเกตติวิทย์ กล่าว

LEO