AOT ยังมีความเสี่ยง! จาก “คิง เพาเวอร์” หลังท่องเที่ยวทรุด โบรกฯ ทบทวนคำแนะนำ-ราคาเป้าหมาย
แม้ AOT ยืนยันว่า King Power ได้ชำระรายได้ประกันขั้นต่ำที่ครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2568 แล้ว แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความต่อเนื่องในการชำระเงิน เพราะผลประกอบการยังคงอ่อนแอจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ยังช้า โบรกฯ อยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการ ราคาเป้าหมาย
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า AOT ยืนยันว่า King Power Suvarnabhumi (KPS) และ King Power Duty-free (KPD) ได้ชำระรายได้ประกันขั้นต่ำที่ครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2568 แล้ว
สรุปโดยย่อ KPS ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานของ AOT ที่บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินของ AOT ได้ขอให้ AOT เลื่อนการชำระรายได้ประกันขั้นต่ำที่ครบกำหนดในช่วงเดือนกันยายน 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ออกไปเป็นเวลา 18 เดือน เนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง
ดังนั้น KPS จะต้องเริ่มชำระตั้งแต่ที่ครบกำหนดในเดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯ ได้ชำระแล้วสำหรับงวดที่ครบกำหนดในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม แล้ว (AOT กำหนดให้ KPS และ KPD ชำระรายได้ประกันขั้นต่ำล่วงหน้า 1 เดือน)
KPD เป็นผู้รับสัมปทานของ AOT ที่ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในสนามบินของ AOT และได้ขอให้ AOT เลื่อนการชำระรายได้ประกันขั้นต่ำที่ครบกำหนดในช่วงเดือนกันยายน 2024 ถึงเมษายน 2025 ออกไปเป็นเวลา 18 เดือนเนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง ดังนั้น KPD จะต้องเริ่มชำระรายได้ประกันขั้นต่ำตั้งแต่งวดที่ครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป และขณะนี้ได้ชำระเงินสำหรับงวดดังกล่าวแล้ว
แม้ว่านี่จะเป็นข่าวดีสำหรับ AOT แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความต่อเนื่องในการชำระเงินของ KPS และ KPD ต่อ AOT เนื่องจากผลประกอบการของทั้งสองบริษัทยังคงอ่อนแอจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ยังช้า การใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับต่ำ และภาระหนี้สินที่มีอยู่ในระดับสูง
หาก KPS และ KPD ไม่สามารถชำระรายได้ประกันขั้นต่ำให้กับ AOT ได้ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ AOT เนื่องจากรายได้นี้คิดเป็นประมาณ 55% ของกำไรของ AOT ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการ ราคาเป้าหมาย และคำแนะนำการลงทุนต่อหุ้น AOT โดยก่อนหน้านี้ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45 บาท
ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 2/67-68 (ม.ค.-มี.ค.68) ที่ 5.8 พันล้านบาท เติบโต 7% จากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการลดลงของรายได้ ส่วนแบ่งผลประโยชน์และ GPM
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/67-68 คาดกำไรลดลงทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินเพียงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ไม่เพียงพอชดเชยการลดลงของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ และต้นทุนที่สูงขึ้นได้
ขณะที่ด้วยภาพการท่องเที่ยวไทยที่ยังฟื้นตัวได้จำกัดนักท่องเที่ยวหลักและมีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงอย่างจีนชะลอตัวต่อเนื่องสามเดือนติด ประเมินว่าความเสี่ยงในการแก้ไขสัญญาสัมปทาน ยังคงอยู่ต้องติดตามการจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำ ของแต่ละเดือนอย่างใกล้ชิด ทำให้คงคำ แนะนำ “TRADING” ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 45.00 บาท สะท้อนความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดที่มากขึ้น
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
โบรกฯ แนะเลี่ยง PTTEP เหตุราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลงหนัก ชี้รีบเก็บ 3 หุ้นโรงกลั่นรับต้นทุนลด
_0.jpg)
วันนี้ ตลท.ใช้มาตรการ Auto Pause ขึ้นเครื่องหมาย "P" หยุดเทรด 60 นาที หลักทรัพย์ที่มีคำสั่งซื้อขายสูงผิดปกติ
%20copy_0.jpg)
เตือนสายเทรด DELTA หลังตลท.ปรับคำนวณดัชนี SET50/100 คาดฉุดกระแสเงินทุนไหลออก
_0.jpg)
เอาไงดี! ราคาทอง ร่วงต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ สหรัฐฯ-จีน จูบปาก แนวรับ 50,700 บาท
%20copy_0.jpg)