MOTHER ยังไม่หายเมาหมัด ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาจองซื้อ สวนทางกลุ่มหุ้นซูเปอร์มาร์เก็ต KK-TNP

ย้อนรอย 3 หุ้นซุเปอร์มาร์เก็ตที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ประกอบด้วย บมจ.มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง (MOTHER)  บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น  (KK) และบมจ.ธนพิริยะ (TNP) 

พบว่า MOTHER น้องใหม่ไอพีโอ ที่เข้าเทรดเป็นรายล่าสุดในวันที่ 11 ก.พ.68  ที่ผ่านมา ยังไม่หายเมาหมัด ราคายังต่ำจอง โดยลงไปทดสอบจุดจต่ำสุดที่ 1.06 บาท เทียบราคาไอพีโอที่ 1.40 บาท โดยราคาปิดวันที่ 19 ก.พ.68 อยู่ที่ 1.11 บาท/หุ้น

ขณะที่ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น  (KK) ค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อร้าน "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" ราคาไอพีโอ 0.88 บาท/หุ้น เข้าเทรดวันที่ 7 ก.พ.63 ขณะที่ราคาปิดวันที่ 19 ก.พ.68 อยู่ที่ 0.95 บาท/หุ้น

ส่วน บมจ.ธนพิริยะ (TNP) ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ "ธนพิริยะ" ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 45 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 44 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา ราคาไอพีโอ 1.75 บาท/หุ้น เข้าเทรดวันแรก 18 พ.ย.58ขณะที่ราคาปิดวันที่ 19 ก.พ.68 อยู่ที่ 2.96 บาท/หุ้น

โดยราคาหุ้น MOTHER ยังไม่สามารถยืนเหนือราคาจองได้ เทียบ KK และ TNP ที่เข้าจดทะเบียนก่อนหน้ายังสามารถยืนเหนือราคาจองได้

ถามว่าทำไม MOTHER ยังราคาต่ำจอง จากการสำรวจตัวเลขทางการเงินพบว่า อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับต่ำเพียง 13.28% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่  1.28% เท่านั้น ขณะที่ D/E อยู่ในระดับสูงถึง 2.81 เท่า เทรดที่ P/E 16.97 เท่า

หากเทียบกับ TNP เทรดที่ P/E 12.98 เท่า อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.83% อัตรากำไรสุทธิที่ 5.91% D/E อยู่ที่ 0.30 เท่า และ KK เทรดที่ P/E 24.29 เท่า อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.20% อัตรากำไรสุทธิที่ -0.42% D/E อยู่ที่ 1.77 เท่า