โบรกฯชี้ 3 หุ้นชิ้นส่วนไทย เจอจิตวิทยาเชิงลบ หลังเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก
ข่าวการเมืองฝั่งเกาหลีใต้กำลังร้อนแรง ประธานาธิบดี ประกาศกฎอัยการศึก อ้างฝ่ายค้านเข้าครอบงำรัฐสภา นักวิเคราะห์มองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นที่มีรายได้ส่งออกไปเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกลุ่ม อิเล็กฯ อาทิ KCE, HANA, DELTA
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากประเด็นนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก โดยกล่าวหาว่าพรรคฝ่ายค้านเข้าครอบงำรัฐสภา เป็นอุปสรรคขัดขวางการบริหารประเทศของรัฐบาล การประกาศกฎอัยการศึกส่งผลลบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ
สำหรับเหตุการณ์นี้คาดว่าจะกดดันให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลงรวมไปถึงการลงทุนในตลาดหุ้นน่าจะเห็นแรงขายแบบ panic และอาจจะส่งผลต่อภาคการค้าโลกโดยเฉพาะ supply chain ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี
โดยเกาหลีใต้มีขนาด GDP ราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ (1.8% ของทั้งโลก หรือมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 13 ของโลก ส่วนไทยมีมูลค่าการค้ากับเกาหลีใต้ (2566) 1.5 หมื่นล้านล้านดอลลาร์ (ส่งออก 5.2 พันล้านดอลลาร์ 2%ของการส่งออกรวม, นำเข้า 9.8 พันล้านล้านดอลลาร์)
ดังนั้นมองว่า เป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นที่มีรายได้ส่งออกไปเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกลุ่ม อิเล็กฯ (KCE, HANA, DELTA), กลุ่มท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวของต่างชาติ และจิตวิทยาบวกกลุ่มเสริมความงามที่ลูกค้าอาจเปลี่ยนใช้บริการจากเกาหลีใต้ อาทิ MASTER, KLINIQ
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เตรียมยกเลิกกฎอัยการศึก หลังประกาศใช้เมื่อคืนวันอังคารที่ ผ่านมา (3 ธ.ค.) โดยกล่าวหาพรรคประชาธิปไตยฝ่ายค้านว่าสนับสนุนเกาหลีเหนือและมีกิจกรรมต่อต้าน รัฐ
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่า เวลานี้ ยังไม่ชัดเจนมากนัก ว่าสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติระดับใด แต่ตลาด เอเซีย จะมีความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของเกาหลีใต้ คาดมีผลต่อการลงทุนยังไม่มากนัก
ยอดนิยม
_0.jpg)
3 หุ้นเด่นรับแรงหนุน รัฐบาลดึง “ลิซ่า BLACKPINK” นั่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ดันท่องเที่ยวคึก
_0.jpg)
GULF-SCC นำทัพ โบรกฯ คัด 5 หุ้นน่าสะสม รับกำไรไตรมาส 3 โดดเด่น
_0.jpg)
ทองคำยังขาขึ้น! กลยุทธ์เน้น “ซื้อเมื่อย่อ” เป้าราคา 51,350–52,000 บาท
_0.jpg)
สภาพัฒน์อัพเป้า "จีดีพี" ไทย คาดปีนี้โต 2% จากเดิม 1.8% รับลงทุนภาครัฐ-อุปโภคบริโภคขยายตัว
