News Today

NRF ตั้งเป้ารายได้ ปี66 โต 3-4 พันลบ. ประกาศต่อยอดธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ D2C


28 กุมภาพันธ์ 2566
NRF ประกาศแผนกลยุทธ์ 2566 รุกหน้า "แพลตฟอร์มเพื่อผู้ส่งออกไทย เน้นมอบประสบการณ์ส่งออกระดับโลก " มุ่งเป้าลูกค้าต้องที่หนึ่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 3-4 พันล้านบาท  

NRF ตั้งเป้ารายได้ ปี66 โต 3-4 พันลบ.jpg

นายแดน ปฐมวาณิชย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์  (NRF) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะขับเคลื่อนธุรกิจของ NRF เพื่อการต่อยอดธุรกิจภายใต้กลยุทธ์  D2C (Direct-to-consumer) เพราะเล็งเห็นแนวโน้ม การเติบโตของ ผู้บริโภคในโซนยุโรป โดยมูลค่าการบริโภคร้านอาหารเอเชียอยู่ที่ 7,100,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ  และตลาดอาหาร ชาติพันธุ์ (Ethnic Food Market) มีมูลค่าอยู่ที่ 2,990,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้บริโภคกลุ่ม อาหารชาติพันธุ์กว่า 90% เลือกที่จะบริโภคอาหารกลุ่มนี้ที่บ้าน

1. ธุรกิจ eCommerce ต่อยอดสู่ Omni Channels
การเสริมแกร่งทางด้านธุรกิจ eCommerce เพื่อต่อยอดสู่ Omni-channels food retailing ครั้งแรกในไทย - พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการส่งออกครอบคลุมทั้งออนไลน์ที่เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซและต่อยอดสู่ Omni-Channels ที่เป็นร้านจำหน่ายสินค้าเอเชีย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภค เข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเอเชียได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในธุรกิจ

“ในปี 2023 เราตั้งเป้ารายได้ราว 3-4 พันล้านบาท  โดยแผนการขยายธุรกิจของ NRF เราเล็งเห็นถึงโอกาสในการ พัฒนาในช่องทาง eCommerce และต่อยอดสู่ Omni-Channel โดยการเปิดร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์จาก เอเชียและมีแผนจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพธุรกิจ เพื่อยกระดับประสบการณ์ ของลูกค้า ซึ่ง flagship store สาขานำร่องจะเริ่มในประเทศอังกฤษจำนวน 4 สาขาในปีนี้ และคาดว่าจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้า ณ ขณะนี้ ทางบริษัทฯ กำลังเจรจา LOI (Letter of intent) กับร้านค้าอยู่ 2 แห่ง ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” แดน ปฐมวาณิชย์ กล่าวเสริม
สำหรับมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารของไทยในปี 2565 มีมูลค่าอยู่ที่ 1,553,822 ล้านบาท  และในปี 2566 ตลาดส่งออกมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 10,281,109,608 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 2%  นับเป็นโอกาสในการรุกตลาดส่งออกยิ่งขึ้นเพื่อดันรายได้ให้แก่ธุรกิจหลักของ NRF

2. ธุรกิจ Specialty Food
2.1) ดันซอสศรีราชาเป็น Product champion การขยายฐานการผลิตโรงงานซอสพริกศรีราชาในสหรัฐ อเมริกา เพื่อเป็น local product ที่มีคุณภาพ สอดรับกับตลาดซอสพริกที่สหรัฐอเมริกาซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 101,200 ล้านบาท เติบโตกว่า 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง 
2.2) ชูผลิตภัณฑ์ Pet Food ส่งออก 5 ประเทศชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย อินเดีย และ กลุ่มตะวันออกกลาง และมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์เข้าสู่ Modern Trade อีกหลายประเทศ สอดรับกับตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงโปรตีนทางเลือกที่มีส่วนแบ่งการตลาด 23.4% เมื่อเทียบกับ ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรทั่วไป 

3. ธุรกิจ Climate Action - การขับเคลื่อนบริษัทสู่เป้าหมาย Net Zero
ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่มีวิสัยทัศน์ในการใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน Food Fighting Climate Change ที่ต้องการเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืนด้วยธุรกิจ Decarbonization ที่ได้เข้าลงทุนใน frontline technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนขั้นสูงที่ได้รับรางวัล X Prize Award 

“NRF ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และพร้อมที่จะผลักดันคู่ค้า พันธมิตร และบริษัทในเครือ ให้ร่วมพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน” พร้อมทั้งการพัฒนาและต่อยอดอาหารที่ดี เพื่อทุกเจเนอเรชั่น เพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ผลิตอาหารชั้นนำบนพื้นฐานด้าน ESG พร้อมขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2573 เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ”
NRF