บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGS TH เปิดแผนธุรกิจและกลยุทธ์กับก้าวใหม่ในตลาดทุนไทย มั่นใจปี 68 ขึ้นTop 5 มาร์เก็ตแชร์ทะลุ 5% หวังลูกค้าสถาบันจากจีนหนุนผลงาน
นายพัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGS TH กล่าวว่า บริษัทฯพร้อมเดินหน้าเชิงรุกขยายธุรกิจในตลาดทุนไทย ไปพร้อมกับผู้ถือหุ้นใหญ่คือ China Galaxy Securities โดยภายในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีก 1% เป็น 5.1% ส่งผลให้บริษัทขึ้น Top 5 ของตลาด จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 8 ซึ่งการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจะมาจากลูกค้ากลุ่มสถาบันที่มาจากบริษัทแม่ในประเทศจีน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการให้บริการด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) , ธุรกิจ กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund), หุ้นกู้อนุพันธ์ (Structure note) และบริการการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุนที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน เพื่อสร้างการเติบโต อย่างมั่นคง ตอกย้ำความเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย
ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีดีลลูกค้าที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET ) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 6 บริษัท ส่วนธุรกิจบริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ จากความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่ม CGSI จะช่วยเพิ่มโอกาสและความสำเร็จให้ลูกค้าที่ใช้บริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งรายย่อยและสถาบันมากกว่า 1 แสนบัญชี ส่วนรายได้มาจากรายย่อย 65% และลูกค้าสถาบัน 35% ซึ่งการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์อีก 1% จะมาจากกลุ่มสถาบันของจีน ทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มเป็นมากกว่า 35%” นายพัชระนนท์
นายพัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGS TH กล่าวว่า บริษัทฯพร้อมเดินหน้าเชิงรุกขยายธุรกิจในตลาดทุนไทย ไปพร้อมกับผู้ถือหุ้นใหญ่คือ China Galaxy Securities โดยภายในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีก 1% เป็น 5.1% ส่งผลให้บริษัทขึ้น Top 5 ของตลาด จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 8 ซึ่งการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจะมาจากลูกค้ากลุ่มสถาบันที่มาจากบริษัทแม่ในประเทศจีน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการให้บริการด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) , ธุรกิจ กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund), หุ้นกู้อนุพันธ์ (Structure note) และบริการการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุนที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน เพื่อสร้างการเติบโต อย่างมั่นคง ตอกย้ำความเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย
ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีดีลลูกค้าที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET ) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 6 บริษัท ส่วนธุรกิจบริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ จากความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่ม CGSI จะช่วยเพิ่มโอกาสและความสำเร็จให้ลูกค้าที่ใช้บริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งรายย่อยและสถาบันมากกว่า 1 แสนบัญชี ส่วนรายได้มาจากรายย่อย 65% และลูกค้าสถาบัน 35% ซึ่งการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์อีก 1% จะมาจากกลุ่มสถาบันของจีน ทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มเป็นมากกว่า 35%” นายพัชระนนท์
ที่เกี่ยวข้อง
