จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : รัฐบาลออกมาตรการหนุน “อสังหาริมทรัพย์” ดันผลงาน “RICHY” ปี67 โตแข็งแกร่ง


14 มีนาคม 2567
รัฐบาลหนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกมาตรการด้านภาษีและการเงิน หนุนผู้ประกอบการ บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) ผลงานปี 67 เติบโตตามเป้าหมาย

รายงานพิเศษ RICHY.jpg
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้   ทำให้รัฐบาลเกือบทุกรัฐบาลที่ผ่านมา มีมาตรการต่างๆในการกระตุ้นธุรกิจ  ส่วนรัฐบาลชุดปัจจุบัน “เผ่าภูมิ โรจนสกุล”  เลขานุการ รมว.คลัง  ปาฐกถาพิเศษ "นโยบายภาครัฐต่อการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์" โดยย้ำว่า ภาครัฐเห็นความสำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวไปได้ โดยแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากผลการสนับสนุนของมาตรการภาครัฐ และการปรับตัวของผู้ประกอบการเอง
กระทรวงการคลัง มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมาตรการด้านภาษี และมาตรการเงินที่สำคัญในปี 2567 ดังนี้

มาตรการด้านภาษี 
1. "ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยกู้ยืม" สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อบรรเทาภาระของผู้มีเงินได้

2. "การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ร้อยละ 90 ของภาษีที่ต้องเสียให้แก่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ไม่เกิน 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้ประกอบการระหว่างการก่อสร้าง

3. "การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" สำหรับทรัพย์ส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน และกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

4. "การขยายเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในปี 2567 เป็นการทั่วไปออกไปอีก 2 เดือน

5. "มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย" ลดค่าจดทะเบียนการโอนจาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ที่จดทะเบียนในปี 2567
มาตรการทางการเงิน 

1. "โครงการบ้านล้านหลัง" สนับสนุนประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง โดย  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรน วงเงิน 20,000 ล้านบาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี
          
2. "โครงการสินเชื่อ Happy Life" สนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง วงเงินกู้ต่อรายตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 2.98% ต่อปี ดอกเบี้ยต่ำที่สุดในปีแรกที่ 1.95% ต่อปี
ซึ่งมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ โดย “พิชญา ตันโสด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) มั่นใจภาพรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ปัจจัยหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางรัฐบาลอย่างการต่ออายุมาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งจะช่วยลดภาระลูกค้าและทำให้ตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น 
          
ประกอบกับปัจจุบันบริษัทได้นำโครงการ IP Program ซึ่งเป็นโปรแกรมการลงทุนรูปแบบใหม่เข้ามาบริหารจัดการให้กับลูกบ้านที่ต้องการจะสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนซื้อคอนโดแล้วปล่อยเช่า โดยโปรแกรมนี้การันตีผลตอบแทน 21% (3 ปีแรก) ปีที่ 4-9 ผลตอบแทนประมาณ 4-9%* ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนด้านอสังหาทรัพย์เป็นอย่างดีมาโดยตลอดจนต้องขยายการให้บริการโครงการ IP Program ออกไปอีกเป็น 5 โครงการ และบริษัทฯ วางแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
          
"ในแต่ละโครงการที่เข้าร่วมโปรแกรม IP Program เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใจกลางเมืองย่าน CBD ตามแนวรถไฟฟ้าใกล้แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว รวมถึงใกล้สถานพยาบาล ผู้ช่วยชาวไทยและผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาในประเทศไทยเลือกเข้าพัก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยว จึงคาดว่าจะเป็นตัวช่วยให้แต่ละโครงการมีอัตราการปล่อยเช่าได้อย่างสม่ำเสมอ และผลักดันผลงานในปีนี้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นางสาวพิชญา กล่าว