จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ยอดขายรถยนต์ EV ทั่วโลก-ไทยพุ่ง ดันผลงาน EA ปี67 แกร่ง
11 มกราคม 2567
ปี 67 กระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในไทยและต่างประเทศ หนุนผลการดำเนินงาน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เติบโตแข็งแกร่ง
กระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนจากการเปิดเผยของ โร โมชัน (Rho Motion) บริษัทวิจัยทางการตลาด ที่ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกพุ่งขึ้น 31% ในปี 2566
นายชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วส่วนใหญ่สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตที่ 30% ที่โร โมชัน คาดการณ์ไว้ ส่วนปี 2567 ทางบริษัทคาดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตขึ้นระหว่าง 25-30%
ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือนที่ 1.5 ล้านคัน
ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) มีสัดส่วนคิดเป็น 9.5 ล้านคัน จากรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13.6 ล้านคัน ที่สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลกในปี 2566 โดยรถยนต์ PHEV ครองยอดขายส่วนที่เหลือ
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV พุ่งขึ้น 50% ในสหรัฐและแคนาดา และขยายตัวขึ้น 27% ในยุโรป และ 15% ในจีน
ซึ่งเทรนด์การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นนั้น ไม่เฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยเองก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. รายงานสถานการณ์การจดทะเบียนใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนพ.ย.66 ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย
- BEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 11,290 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 292.29% ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 89,027 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 391.29%
- HEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 7,524 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 47.82 คัน ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 79,560 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 32.74%
- PHEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 785 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 8.31 คัน ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 11,168 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.84%
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งผลดีต่อธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ โดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ในฐานะผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของไทยได้เตรียมลงทุนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซึ่ง “วิทยา เชียงอุทัย CISA Assistant Vice President EA ระบุ ปี 67 บริษัทได้จัดงบลงทุนราว 14,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ประมาณ 46% ใช้รองรับการขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ขณะที่งบลงทุนสำหรับ EV Train 3%, Charging Station 13%, Waste Management 11%, Biodiesel 2%, Wind 15%, power 1% และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมาจากธุรกิจแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 46%, โรงไฟฟ้า (Power) 26%, ไบโอดีเซล 22% และอื่นๆ อีก 6%
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ายอดขายรถ EV ในปี 67 ที่ 3,300 คัน แบ่งเป็น EV Truck มากกว่า 1,650 คัน และที่เหลือเป็น EV BUS จากสิ้นปี 66 คาดส่งมอบรถ EV ได้ใกล้เคียง 3,000 คัน โดยบริษัทยังคงโฟกัสในตลาด Commercial EV เนื่องจากสามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ง่าย, มีดีมานด์ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี เห็นได้จากสถิติย้อนหลังยอดจดทะเบียน Commercial EV จะเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 คัน/ปี ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าไปในตลาดนี้ ทำให้ในอนาคตคาดว่าปี 69 จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ 10% หรือ 8,000 คัน
กระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนจากการเปิดเผยของ โร โมชัน (Rho Motion) บริษัทวิจัยทางการตลาด ที่ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกพุ่งขึ้น 31% ในปี 2566
นายชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วส่วนใหญ่สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตที่ 30% ที่โร โมชัน คาดการณ์ไว้ ส่วนปี 2567 ทางบริษัทคาดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตขึ้นระหว่าง 25-30%
ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือนที่ 1.5 ล้านคัน
ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) มีสัดส่วนคิดเป็น 9.5 ล้านคัน จากรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13.6 ล้านคัน ที่สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลกในปี 2566 โดยรถยนต์ PHEV ครองยอดขายส่วนที่เหลือ
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV พุ่งขึ้น 50% ในสหรัฐและแคนาดา และขยายตัวขึ้น 27% ในยุโรป และ 15% ในจีน
ซึ่งเทรนด์การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นนั้น ไม่เฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยเองก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. รายงานสถานการณ์การจดทะเบียนใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนพ.ย.66 ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย
- BEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 11,290 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 292.29% ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 89,027 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 391.29%
- HEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 7,524 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 47.82 คัน ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 79,560 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 32.74%
- PHEV จดทะเบียนใหม่ เดือนพ.ย. 785 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 8.31 คัน ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมทั้งสิ้น 11,168 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.84%
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งผลดีต่อธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ โดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ในฐานะผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของไทยได้เตรียมลงทุนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซึ่ง “วิทยา เชียงอุทัย CISA Assistant Vice President EA ระบุ ปี 67 บริษัทได้จัดงบลงทุนราว 14,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ประมาณ 46% ใช้รองรับการขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ขณะที่งบลงทุนสำหรับ EV Train 3%, Charging Station 13%, Waste Management 11%, Biodiesel 2%, Wind 15%, power 1% และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมาจากธุรกิจแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 46%, โรงไฟฟ้า (Power) 26%, ไบโอดีเซล 22% และอื่นๆ อีก 6%
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ายอดขายรถ EV ในปี 67 ที่ 3,300 คัน แบ่งเป็น EV Truck มากกว่า 1,650 คัน และที่เหลือเป็น EV BUS จากสิ้นปี 66 คาดส่งมอบรถ EV ได้ใกล้เคียง 3,000 คัน โดยบริษัทยังคงโฟกัสในตลาด Commercial EV เนื่องจากสามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ง่าย, มีดีมานด์ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี เห็นได้จากสถิติย้อนหลังยอดจดทะเบียน Commercial EV จะเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 คัน/ปี ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าไปในตลาดนี้ ทำให้ในอนาคตคาดว่าปี 69 จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ 10% หรือ 8,000 คัน
ที่เกี่ยวข้อง
