บล.ทรีนีตี้ระบุว่า SET Index กลับมาซื้อขายด้วยวอลุ่มซึมๆอีกครั้ง หลังไม่มีปัจจัยกระทบใหม่ที่สําคัญ ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ ประกอบกับการมีสวนร่วมที่ลดลงของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเหลือเพียง 9.4% ของตลาด หลังจากผ่านพ้นช่วงการซื้อขายกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี/ต้นปีที่ผ่านมา ที่เห็นสัดส่วนการมีส่วนร่วมพุ่งสูงเป็น 10-14% เช่นเดียวกับกลุ่มนักลงทุนทั่วไปในประเทศเราประเมินไว้ว่ายังไม่น่าจะเห็นสภาพคล่องไหลกลับเข้ามา จากการที่เงินส่วนใหญ่ยังคงกองอยู่นอกตลาดโดยเฉพาะในบัญชี FCD ล่าสุดนักลงทุนกลุ่มนี้มีส่วนร่วมเหลือเพียง 27% เมื่อวานนี้ตํ่าที่สุดในรอบ 1 เดือน
.

• Short selling : ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณธุรกรรม Short selling กลับมาเพิ่มขึ้นในระดับสูงอีกครั้ง โดยเมื่อวานนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ส่วนเฉลี่ย 5 วันย้อนหลังอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 12% ของวอลุ่มการซื้อขายทั้งตลาด ตราบใดที่วอลุ่มโดยรวมกลับมาอยู่ในระดับตํ่าอีกครั้ง ประเมินอิทธิพลของธุรกรรม Short selling นี้จะเป็นตัวจํากัด Upside ที่สําคัญของดัชนีหุ้นไทยต่อไป
สําหรับมุมมองของเราต่อภาพดัชนี SET ยังคงไม่เปลี่ยน โดยในระยะสั้นดัชนีน่าจะยังแกว่งตัว Sideways บวกลบจากกรณีฐานของเราตามวิธี PE Model ที่ 1410 จุด โดยระดับนี้เรามองว่าค่อนข้างเสถียรมาก เนื่องจาก 1) ตัวคูณ PE ที่ค่อนข้างนิ่ง จากการประเมินว่าธนาคารกลางต่างๆจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาสที่ 1 นี้ และ 2) คาดการณ์ EPS ปี 2025 ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 113 บาท ซึ่งสูงกว่า Consensus forecast ปัจจุบันที่ 108.3 บาท บ่งชี้ถึงการเผื่อ room สําหรับการ Upgrade กําไรของนักวิเคราะห์ในช่วงถัดไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่ม Domestic consumption
.

• Short selling : ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณธุรกรรม Short selling กลับมาเพิ่มขึ้นในระดับสูงอีกครั้ง โดยเมื่อวานนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ส่วนเฉลี่ย 5 วันย้อนหลังอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 12% ของวอลุ่มการซื้อขายทั้งตลาด ตราบใดที่วอลุ่มโดยรวมกลับมาอยู่ในระดับตํ่าอีกครั้ง ประเมินอิทธิพลของธุรกรรม Short selling นี้จะเป็นตัวจํากัด Upside ที่สําคัญของดัชนีหุ้นไทยต่อไป
สําหรับมุมมองของเราต่อภาพดัชนี SET ยังคงไม่เปลี่ยน โดยในระยะสั้นดัชนีน่าจะยังแกว่งตัว Sideways บวกลบจากกรณีฐานของเราตามวิธี PE Model ที่ 1410 จุด โดยระดับนี้เรามองว่าค่อนข้างเสถียรมาก เนื่องจาก 1) ตัวคูณ PE ที่ค่อนข้างนิ่ง จากการประเมินว่าธนาคารกลางต่างๆจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาสที่ 1 นี้ และ 2) คาดการณ์ EPS ปี 2025 ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 113 บาท ซึ่งสูงกว่า Consensus forecast ปัจจุบันที่ 108.3 บาท บ่งชี้ถึงการเผื่อ room สําหรับการ Upgrade กําไรของนักวิเคราะห์ในช่วงถัดไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่ม Domestic consumption
ยอดนิยม
ตลท.ถอดหุ้น JKN ออกจากตลาดฯ เหตุเปิดเผยข้อมูลงบการเงินที่เป็นเท็จ เปิดให้ซื้อขายครั้งสุดท้าย 18-26 ธ.ค.นี้
โบรกฯ ยัน ปปง.อายัดหุ้น BCP รายย่อยไม่กระทบ -ไม่ฉุดพื้นฐาน ชี้แก๊งโดนอายัดไม่มีส่วนการบริหาร
PTTEP กางแผนลงทุน 5 ปี ทุ่มงบลงทุนกว่า 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ดันยอดขายแตะ 6.09 แสนบาร์เรลต่อวัน