Smart Investment

"อานนท์ชัย วีระประวัติ" ตัดขาย SABUY พบสัดส่วนต่ำสุดรอบ 3 ปี


03 มกราคม 2567
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นปี 2567 ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาได้ ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินว่าต้นปีนี้ยังมีความหวังว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง โดยบล.เอเซียพลัส คาดว่าตลาดหุ้นไทยปี 2567 หวังฟื้นดี Fund Flow หนุนต่อ 

smart investment หุ้นใหญ่เบอร์ 2 SABUY เทขายเพียบ!.jpg

ตลาดหุ้นไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงแรง -15.15% ซึ่งเป็นการลดลงมาก ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (ข้อมูลจาก Bloomberg เปรียบเทียบกับตลาดหุ้น 92 ประเทศทั่วโลก) อย่างไรก็ตามในปี 2567 คาดว่า SET Index มีโอกาสทยอยฟื้นตัวขึ้นมาได้จาก แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังมีแนวโน้มฟื้นขึ้น ส่วนทางกับ SET Index ที่ ย่อตัวลงมาแล้ว อีกทั้งหากพิจารณาสถิตในอดีต SET Index มีโอกาสฟื้นตัวในปีนี้สูง สะท้อนได้จากปีที่แล้ว SET Index ลงลึกจนติดลบมากที่สุดในรอบ 15 ปี (นับตั้งแต่ซับ ไพร์มปี 2008 เป็นต้นมา) และที่สำคัญคือ จากข้อมูลตลอด 25 ปี พบว่า SET Index ไม่ เคยลบติดต่อกัน 2 ปีติดเลย
ในมุมของ Fund Flow ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 (14 – 28 ธ.ค. 66) เริ่มเห็นต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย เกือบ 200 ล้านเหรียญ หรือราว 6.1 พันล้านบาท หนุนยอดซื้อ สุทธิเดือน ธ.ค. เกือบพลิกกลับมาเป็นบวก และเริ่มต้นปี 2567 ทำให้คาดหวัง Fund Flow ยังมี Momentum ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ 

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำลงทุนหุ้นพื้นฐานดีใน 3 ธีม ที่มีโอกาส Outperform ตลาด ในช่วงต้นปี 2567 

1. หุ้นปันผลสูง TISCO, INTUCH, SIRI, MAJOR 

2. หุ้นได้ประโยชน์ EASY E-RECEIPT COM7, PLANB, CPN, CRC, SCGP 

3. หุ้น Free Float สูง KBANK, TISCO, SIRI, CPN, WHA, BH หวังได้เม็ดเงิน เพิ่มเติมจากกองทุนที่อ้างอิงดัชนีใหม่ SET50FF และ SET100FF

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนการลงทุนของ "อานนท์ชัย วีระประวัติ" ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ได้มีสัดส่วนการถือครองหุ้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

ล่าสุด "อานนท์ชัย วีระประวัติ"เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566ได้รายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดย นาย อานนท์ชัย วีระประวัติซึ่งเป็นการจำหน่ายจำนวน 1,600,000 หุ้น คิดเป็น 0.0905% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย จำนวน 175,199,800 หุ้น คิดเป็น 9.9066% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 0.0934% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 9.9179% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

หากพิจารณาการถือครองหุ้นย้อนหลัง พบว่า การถือครองหุ้นในปัจจุบันที่จำนวน 175,199,800 หุ้น สัดส่วน 9.9179% ถือเป็นการถือครองต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยได้มีการลดสัดส่วนการถือครองอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2566 สัดส่วนการถือหุ้นลดลง อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2566 สัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 248,400,000 หุ้น คิดเป็น 13.49% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาได้มีการตัดขายหุ้นมากถึง 73 ล้านหุ้น

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวราคาหุ้น SABUY ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 จนถึงสิ้นปี 2566 พบว่าราคาลดลง 38.79% จากราคา 8.25 บาทลดลงมาอยู่ที่ 5.05 บาท โดยราคาต่ำสุดเคยอยู่ที่ 4.86 บาท