จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “แผงโซลาร์” บูมหนุน Solar โต ความต้องการใช้พุ่ง - ราคาลง


28 ธันวาคม 2566
การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ยังเติบโตได้ดีจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มราคาที่ปรับลดลง  ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.โซลาร์ตรอน (Solar) ที่พลิกกับมาเติบโตเป็นบวก

รายงานพิเศษ SOLAR.jpg

SCB EIC  วิเคราะห์ความต้องการใช้แผงโซลาร์ทั่วโลกเติบโตได้ดีตามตลาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยในปี 67 ขยายตัวราว 24%YOY และขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะกลาง โดยเฉพาะตลาด Self consumption ที่กำลังเพิ่มบทบาทมากขึ้นและขยายตัวได้ดีกว่าตลาดโรงไฟฟ้า 
          
ส่วนแนวโน้มราคาแผงโซลาร์ในปี 67 คาดว่ายังคงลดลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจาก 

1. ราคา Polysilicon ที่ลดลงจากกำลังการผลิตต้นทุนต่ำที่มีมากขึ้น 

2. การแข่งขันที่มากขึ้นจากผู้เล่นรายใหญ่ที่กำลังกินส่วนแบ่งการตลาด 

3. การเข้าสู่ช่วงกลางของเทคโนโลยี (ช่วงที่การผลิตขนาดใหญ่ หรือ Mass-production level) ทำให้ต้นทุนต่อ Watt ต่ำลง ในระยะกลาง คาดว่าราคาจะลดลงต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอลง ตามกำลังการผลิตที่เติบโตในอัตราที่ชะลอลง ผนวกกับแนวโน้มนโยบายกีดกันการค้าที่มีมากขึ้น
         
ความท้าทายของภาพรวมธุรกิจแผงโซลาร์ 

1.นโยบายกีดกันทางการค้าที่อาจมีมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ใช้ภาษีนำเข้าเพื่อลดการเข้ามาแข่งขันของแผงโซลาร์นำเข้าจากจีนหรือจากประเทศที่จีนใช้เป็นฐานการผลิต เช่น ไทย และนำมาสู่การลงทุนและการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่มากขึ้น

2.ข้อจำกัดบางประการที่อาจส่งผลให้ตลาดเติบโตได้จำกัด อาทิ Grid bottleneck, การขาดแคลนแรงงานและพื้นที่สำหรับติดตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ราคาที่ดินอยู่ในระดับสูง (เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป)

 3.การแข่งขันที่ยังมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง (ทำให้ผู้ผลิตที่บริหารต้นทุนได้ดีกว่า ผนวกกับการกระจายตัวตลาดผู้ซื้อที่มากกว่าจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้)

ซึ่งแนวโน้มแผงโซลาร์ ที่ปรับตัวดีขึ้น สนับสนุนผลงาน บมจ.โซลาร์ตรอน (Solar) ที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบต่าง ๆ และให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ  ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 

สะท้อนจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66  ที่ผ่านมา ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.9 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.00 บาท  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 51.49 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น