จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : กนง.คงดบ .- รัฐต่ออายุลดภาษีอสังหาฯ 2 ปัจจัยหนุนตลาดเติบโตแข็งแกร่ง


27 ธันวาคม 2566
โอกาสทองของผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้าน หลังดอกเบี้ยซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญมีสัญญาณทรงตัว  และต้นทุนด้านภาษีก็ปรับลดลง  ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้ง บมจ.พรีบิลท์  (PREB)  ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ผลงานจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

รายงานพิเศษ กนง.คงดบ.-รัฐต่ออายุลดภาษีอสัง.jpg

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  ครั้งล่าสุด ปลายเดือนพ.ย. 66 ที่ผ่านมา  มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี  สะท้อนการสิ้นสุดยุคดอกเบี้ยขาขึ้น แม้ทางการจะยังส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่ก็ส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่กำลังผ่อนบ้านและผู้ที่วางแผนซื้อบ้านในอนาคต  ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2566 ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 60.2 เป็น 60.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 45 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 

และเมื่อรวมกับข่าวดีล่าสุด  ซึ่งนายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการของขวัญปีใหม่ ให้แก่ประชาชนของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานในสังกัด รวมทั้งสิ้น 39 มาตรการ  เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

โดยจะลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และห้องชุด ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2 เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567

ซึ่งขั้นตอนต่อไปอยู่ระหว่างรอกระทรวงการมหาดไทยยกร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ โดยคลังคาดว่าจะสูญเสียรายได้ราว 5 พันล้านบาท  แต่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ 0.5% ของจีดีพี และผลต่อซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง ส่วนการผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value : LTV) เป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นผู้พิจารณาเอง

ทั้งการคงดอกเบี้ยนโยบายและการออกมาตรการลดภาษีของรัฐบาล  เป็นการลดต้นทุนให้กับผู้ซื้อ  กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และยังเป็นการกระตุ้นตลาดอสังริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่    

ซึ่งตอกย้ำความมั่นใจของผู้บริหาร บมจ.พรีบิลท์ (PREB) “วิโรจน์ เจริญตรา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ระบุ แนวโน้มธุรกิจในปี 2566 ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างใหม่ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และคาดว่ามีโอกาสได้งานอีกหลายโครงการ

และบริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง มุ่งเน้นที่จะบริหารต้นทุน ด้วยการลดระยะเวลาก่อสร้างและสามารถควบคุมคุณภาพได้ดีมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เริ่มมีทิศทางที่ดี และฟื้นตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าหาที่ดินทำเลทองสำหรับจัดตั้งโครงการใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายทั้งด้านการเดินทางและการใช้ชีวิตในประจำวัน 

ขณะเดียวกันยังหาโอกาสเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างในทุกเซกเมนต์  ซึ่งจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างของบริษัทฯ ทำให้คาดว่ามีโอกาสเข้ารับงานได้อีกมาก ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตแข็งแกร่ง