Wealth Sharing
                                
                                
                                
                                    
                                        
                                    
                                
                            
                        PPS ปักหมุดปี 66 เติบโต 10% กอด Backlog 570 ลบ.-ลุยประมูลงานใหม่เพิ่ม
                                            
                                            13 กุมภาพันธ์ 2566
                                        
                                    
                                    
                                    ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2566 ว่าบริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการเติบโต 10% โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาระบบสารสนเทศเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง ขานรับภาวะโลกร้อนสร้างการเติบโตยั่งยืน 

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงาน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1. พัฒนาการบริหารงานก่อสร้าง โดยบริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีเข้าไปในขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นระบบ และมีความชัดเจนในกระบวนการทำงานมากขึ้น รวมถึงการอบรมระบบมาตรฐานใหม่ ให้พนักงานมีความเข้าใจ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดในงานก่อสร้างของบริษัท รวมถึงวางแผนจำหน่ายและให้บริการด้านซอล์ฟแวร์ ภายใต้ชื่อ KANNA เป็นโปรแกรมชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับงานบริหาร และควบคุมโครงการให้แก่ลูกค้าบริษัทอื่นเพื่อสร้างฐานรายได้ประจำ อีกทั้งเตรียมขอมาตรฐานด้าน IT หรือ ISO 20000-1 ที่เป็นมาตรฐานสากลสำหรับบริหารจัดการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. การพัฒนาอย่างยั่งยืนในงานก่อสร้าง วางแผนขอมาตรฐาน ISO 14001 สำหรับบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นองค์กรที่ตรวจวัด Carbon Credit Equivalent ได้ และได้รับการรับรองจากองค์กรบริหารก๊าซเรือนกระจก โดยปีนี้ภาครัฐประกาศให้มีการบังคับใช้นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คาดว่าจะมีบริษัทจำนวนมากที่มองหาที่ปรึกษาเกี่ยวกับลดคาร์บอน ซึ่ง PPS มีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษา จากประสบการณ์ที่บริษัทมีการบันทึกคาร์บอนมาตั้งแต่ปี 2561 และรับรางวัลด้านความยั่งยืน (Sustainability) มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงาน 2566 บริษัทมีโอกาสรับงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานกลุ่มสนามบิน กลุ่มงานกรมโยธา งานห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก - ใหญ่ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 570ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท และเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นเสนองานภาครัฐและเอกชน ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการที่ทยอยลงทุนหลายงานตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น ทิศทางอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ ที่มีมูลค่า 50-200 ล้านบาท โดยโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทลักซ์ชัวรี่วิลล่าในที่ดินแหลมยามูจ.ภูเก็ต (Headland Cape Yamu) อยู่ระหว่างปรับแผนการตลาดเพื่อปิดการขายให้ได้ตามเป้า ได้อย่างน้อย 2 หลังในปีนี้ ทั้งนี้ โครงการเฟสแรกจำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 240 ล้านบาทต่อยูนิต ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 2 หลัง
                                
                                
                            
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงาน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1. พัฒนาการบริหารงานก่อสร้าง โดยบริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีเข้าไปในขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นระบบ และมีความชัดเจนในกระบวนการทำงานมากขึ้น รวมถึงการอบรมระบบมาตรฐานใหม่ ให้พนักงานมีความเข้าใจ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดในงานก่อสร้างของบริษัท รวมถึงวางแผนจำหน่ายและให้บริการด้านซอล์ฟแวร์ ภายใต้ชื่อ KANNA เป็นโปรแกรมชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับงานบริหาร และควบคุมโครงการให้แก่ลูกค้าบริษัทอื่นเพื่อสร้างฐานรายได้ประจำ อีกทั้งเตรียมขอมาตรฐานด้าน IT หรือ ISO 20000-1 ที่เป็นมาตรฐานสากลสำหรับบริหารจัดการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. การพัฒนาอย่างยั่งยืนในงานก่อสร้าง วางแผนขอมาตรฐาน ISO 14001 สำหรับบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นองค์กรที่ตรวจวัด Carbon Credit Equivalent ได้ และได้รับการรับรองจากองค์กรบริหารก๊าซเรือนกระจก โดยปีนี้ภาครัฐประกาศให้มีการบังคับใช้นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คาดว่าจะมีบริษัทจำนวนมากที่มองหาที่ปรึกษาเกี่ยวกับลดคาร์บอน ซึ่ง PPS มีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษา จากประสบการณ์ที่บริษัทมีการบันทึกคาร์บอนมาตั้งแต่ปี 2561 และรับรางวัลด้านความยั่งยืน (Sustainability) มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงาน 2566 บริษัทมีโอกาสรับงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานกลุ่มสนามบิน กลุ่มงานกรมโยธา งานห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก - ใหญ่ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 570ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท และเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นเสนองานภาครัฐและเอกชน ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการที่ทยอยลงทุนหลายงานตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น ทิศทางอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ ที่มีมูลค่า 50-200 ล้านบาท โดยโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทลักซ์ชัวรี่วิลล่าในที่ดินแหลมยามูจ.ภูเก็ต (Headland Cape Yamu) อยู่ระหว่างปรับแผนการตลาดเพื่อปิดการขายให้ได้ตามเป้า ได้อย่างน้อย 2 หลังในปีนี้ ทั้งนี้ โครงการเฟสแรกจำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 240 ล้านบาทต่อยูนิต ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 2 หลัง
%20copy.jpg) 
                                 
                             
                             
                             
                             
                            _0.jpg) 
                        _0.jpg) 
                        %20copy.jpg)