จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : "วีซ่าฟรี" หนุนชาวจีนเที่ยวไทย กระตุ้นยอดขายเครื่องดื่ม-ขนมขบเคี้ยว “SNNP”
04 ตุลาคม 2566
มาตรการวีซ่าฟรีที่ประกาศใช้ตั้งแต่ 25 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา กระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นกว่า 70% ส่งผลดีต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ที่เป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 20,051,535 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,280,622 คน รองลงมา คือ จีน 2,509,698 คน เกาหลีใต้ 1,197,763 คน อินเดีย 1,165,935 คน และรัสเซีย 994,431 คน
ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังมาตรการ VISA Free มีผลบังคับใช้ นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก เป็นนักท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 37.47% จากสัปดาห์ก่อนหน้า รองลงมา เป็นนักท่องเที่ยวจากแอฟริกา (+28.68%) เอเชียใต้ (+18.62%) ยุโรป (+9.92%) อเมริกา (+7.83%) และอาเซียน (+3.10%) ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากโอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ปรับตัวลดลง 5.02% (WoW) และ 4.78% (WoW) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย และลาว
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งเสริมยอดขายของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว เช่น เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนน ภายใต้ตราสินค้าเจเล่ ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้น ภายใต้ตราสินค้าเบนโตะ และขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้ตราสินค้าดอกบัว โลตัส เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งบล.เมย์แบงก์ วิเคราะห์หุ้น บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายอิง DCF ที่ 27.50 บาท (WACC 8.2%, growth 3.5%) เราคาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งใน 3Q66 และเดินหน้าเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นใน 4Q66 เราคาดว่ายอดขายในประเทศจะยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่ยอดขายในเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวสอดคล้องกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและการขยายกำลังการผลิต
คาดกำไร 3Q66 ทำสถิติใหม่อีกครั้ง
เราคาดกำไรสุทธิ3Q66 (ประกาศงบ 7 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 15% YoY สู่ระดับ 164 ล้านบาท โดยการทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Jele Chewy Jelly, Jele Beautie, Bento และ Magic Farm Fresh ในช่วง4Q64-2Q66 คาดว่าจะหนุนให้ยอดขายในประเทศเติบโต 6% YoY ใน 3Q66 ส่วนยอดขายในต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% QoQ และ 3% YoY โดยคาดว่ายอดขายในเวียดนามเติบโต 20% QoQ และ 34% YoY เป็น 200 ล้านบาท ทั้งนี้โรงงานผลิตเบนโตะในเวียดนามเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ค. 2566 ในขณะที่เศรษฐกิจของเวียดนามฟื้นตัวใน 3Q66 เรายังคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 114 bps YoY เป็น 28.4% เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง อีกทั้ง SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มจะลดลงเหลือ 15.4% จาก 16.0% ใน 3Q65 เนื่องจากผลประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด
กำไร 4Q66 หนุนโดยไฮซีซันและเศรษฐกิจเวียดนามฟื้น
เราคาดว่ากำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดใน 4Q66 เนื่องจากผลกระทบตามฤดูกาลและโรงงานทั้งสามเฟสในเวียดนามสร้างเสร็จอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อใน 4Q66 เนื่องจากยอดขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเบนโตะ ซึ่งโดยปกติจะมียอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงปิดเทอมของไทยในเดือน ต.ค. ผู้บริหารของ SNNP คาดว่ายอดขายเวียดนาม ในปี66 จะอยู่ที่ 800 ล้านบาท เทียบกับเป้าก่อนหน้านี้ที่ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดขายในเวียดนามที่ไม่ได้ตามเป้าคาดว่าจะถูกชดเชยด้วยการส่งออกไปยังจีนและประเทศอื่นๆ ส่วนเราคาดการณ์ยอดขายในเวียดนาม 734 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าบริษัทจะทำได้
คงประมาณการกำไรตามเดิม
เราคงประมาณการกำไรปี66 ไว้ที่ 671 ล้านบาท (+30% YoY) โดยคาดว่าจะเติบโตอีก 21% YoY เป็น 813 ล้านบาทในปี 67 ยอดขายในประเทศจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศจะถูกผลักดันจากยอดขายในเวียดนาม โดยที่การผลิตสินค้าโลตัส เบนโตะและเจเล่ที่โรงงานในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งการบริโภคในประเทศเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ของ Maybank คาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเวียดนามที่ 4.8% ในปี 66 และ 6.0% ในปี67
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 20,051,535 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,280,622 คน รองลงมา คือ จีน 2,509,698 คน เกาหลีใต้ 1,197,763 คน อินเดีย 1,165,935 คน และรัสเซีย 994,431 คน
ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังมาตรการ VISA Free มีผลบังคับใช้ นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก เป็นนักท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 37.47% จากสัปดาห์ก่อนหน้า รองลงมา เป็นนักท่องเที่ยวจากแอฟริกา (+28.68%) เอเชียใต้ (+18.62%) ยุโรป (+9.92%) อเมริกา (+7.83%) และอาเซียน (+3.10%) ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากโอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ปรับตัวลดลง 5.02% (WoW) และ 4.78% (WoW) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย และลาว
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งเสริมยอดขายของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว เช่น เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนน ภายใต้ตราสินค้าเจเล่ ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้น ภายใต้ตราสินค้าเบนโตะ และขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้ตราสินค้าดอกบัว โลตัส เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งบล.เมย์แบงก์ วิเคราะห์หุ้น บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายอิง DCF ที่ 27.50 บาท (WACC 8.2%, growth 3.5%) เราคาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งใน 3Q66 และเดินหน้าเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นใน 4Q66 เราคาดว่ายอดขายในประเทศจะยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่ยอดขายในเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวสอดคล้องกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและการขยายกำลังการผลิต
คาดกำไร 3Q66 ทำสถิติใหม่อีกครั้ง
เราคาดกำไรสุทธิ3Q66 (ประกาศงบ 7 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 15% YoY สู่ระดับ 164 ล้านบาท โดยการทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Jele Chewy Jelly, Jele Beautie, Bento และ Magic Farm Fresh ในช่วง4Q64-2Q66 คาดว่าจะหนุนให้ยอดขายในประเทศเติบโต 6% YoY ใน 3Q66 ส่วนยอดขายในต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% QoQ และ 3% YoY โดยคาดว่ายอดขายในเวียดนามเติบโต 20% QoQ และ 34% YoY เป็น 200 ล้านบาท ทั้งนี้โรงงานผลิตเบนโตะในเวียดนามเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ค. 2566 ในขณะที่เศรษฐกิจของเวียดนามฟื้นตัวใน 3Q66 เรายังคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 114 bps YoY เป็น 28.4% เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง อีกทั้ง SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มจะลดลงเหลือ 15.4% จาก 16.0% ใน 3Q65 เนื่องจากผลประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด
กำไร 4Q66 หนุนโดยไฮซีซันและเศรษฐกิจเวียดนามฟื้น
เราคาดว่ากำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดใน 4Q66 เนื่องจากผลกระทบตามฤดูกาลและโรงงานทั้งสามเฟสในเวียดนามสร้างเสร็จอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อใน 4Q66 เนื่องจากยอดขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเบนโตะ ซึ่งโดยปกติจะมียอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงปิดเทอมของไทยในเดือน ต.ค. ผู้บริหารของ SNNP คาดว่ายอดขายเวียดนาม ในปี66 จะอยู่ที่ 800 ล้านบาท เทียบกับเป้าก่อนหน้านี้ที่ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอดขายในเวียดนามที่ไม่ได้ตามเป้าคาดว่าจะถูกชดเชยด้วยการส่งออกไปยังจีนและประเทศอื่นๆ ส่วนเราคาดการณ์ยอดขายในเวียดนาม 734 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าบริษัทจะทำได้
คงประมาณการกำไรตามเดิม
เราคงประมาณการกำไรปี66 ไว้ที่ 671 ล้านบาท (+30% YoY) โดยคาดว่าจะเติบโตอีก 21% YoY เป็น 813 ล้านบาทในปี 67 ยอดขายในประเทศจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศจะถูกผลักดันจากยอดขายในเวียดนาม โดยที่การผลิตสินค้าโลตัส เบนโตะและเจเล่ที่โรงงานในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งการบริโภคในประเทศเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ของ Maybank คาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเวียดนามที่ 4.8% ในปี 66 และ 6.0% ในปี67
ที่เกี่ยวข้อง
