จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : โบรกฯ คาด ITNS กำไร Q3 ทำสถิติสูงสุดใหม่ กระจายความเสี่ยงเน้นงานเอกชน - Backlog พุ่ง


14 กันยายน 2566
การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล  หนุนให้เกิดการลงทุนภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีความจำเป็นต่อภาคธุรกิจ  และยังส่งผลดีต่อ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) ในการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง  

รายงานพิเศษ ITNS copy.jpg

เศรษฐกิจไทยมีความชัดเจนมากขึ้นหลังรัฐบาลแถลงนโยบายและเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  หนุนการลงทุนภาคเอกชน  โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและยังส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3  โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS)  “สมชาย อ่วมกระทุ่ม”  เชื่อแนวโน้มผลการดำเนินงานยังเติบโตโดดเด่น เนื่องจากบริษัทมีแผนส่งมอบงานโครงการใหญ่ให้กับภาคเอกชนมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท 
          
พร้อมกันนี้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.66 บริษัทฯ มี Backlog อยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท เป็นสัญญารับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 288 ล้านบาท มีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 55 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท และได้เข้าร่วมประมูลงานแล้ว มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยสรุปผลภายในเร็วๆ นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่า จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 25-30% จากปีก่อน และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
          
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ เร่งเพิ่มรายได้และกำไรจากธุรกิจ SI (System Integrator) และ MA (Maintenance) โดยเพิ่มการขยายฐานลูกค้า ขยายงานด้านการให้บริการบำรุงดูแลรักษา เพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้นและสร้างความต่อเนื่องทางด้านรายได้ ขณะเดียวกัน มุ่งขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการซื้อและติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี ขยายการให้เช่าแก่ลูกค้าในกลุ่มลูกค้าที่มีความกังวลปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ขยายการให้เช่าแก่กลุ่มลูกค้าที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด -19 เช่น กลุ่มโรงแรม ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการให้บริการ เป็นต้น 
    
"ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ วางแผนปรับสัดส่วนรายได้จากภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นด้วย เพื่อกระจายความเสี่ยง กระจายฐานลูกค้า เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และลดการพึ่งพาลูกค้ารายใดรายหนึ่ง ประกอบกับบริษัทฯ มีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางพร้อมรับงานที่มีความซับซ้อน ทำให้มีความพร้อมสำหรับการเข้าประมูลงานใหม่ๆ ที่มีมาร์จิ้นที่ดี เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้ และความสามารถทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายสมชาย กล่าว 
        
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนการลงทุนในธุรกิจอื่นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยการให้บริการด้าน Cloud service และธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เช่น บริษัทผู้จำหน่ายสินค้า Brand ที่แตกต่างจากบริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อที่จะเข้ามาหนุนความเข้มแข็งของบริษัทสู่ผู้ให้บริการไอซีที โซลูชั่น (ICT Solutions) อย่างครบวงจร

ขณะที่ บล.ดาโอ ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกตามเดิมจาก SET Opportunity Day (12 ก.ย.) โดยมีประเด็นสำคัญ 
1) ยังคงเป้ารายได้ปี 2023E เติบโต +25%-30% YoY หรืออยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท โดย 3Q23E จะดีขึ้นทั้ง YoY, QoQ, 
2) แนวโน้มงานประมูลปรับตัวดีขึ้น โดยภาคเอกชนเริ่มมีงานประมูลขนาดใหญ่กลับมา รวมถึงงานโครงการภาครัฐจะเริ่มเดินหน้าประมูลมากขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่,
3) backlog ณ 30 มิ.ย.23 อยู่ที่ 420 ล้านบาท ยังทรงตัวจาก 31 มี.ค.23 และอยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาอีกราว 55 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ 2H23E ราว 288 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับรายได้ 1H23 จะทำให้มีรายได้รวมคิดเป็น 82% จากเป้าหมายรายได้ทั้งปี  ซึ่งเราประเมินว่ารายได้ปี 2023E จะทำได้ตามเป้าหมาย

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2023E ที่ 64 ล้านบาท +16% YoY โดยกำไร 1H23 จะคิดเป็น 43% สำหรับแนวโน้มกำไร 3Q23E เราประเมินว่าจะดีขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ จากการรับรู้รายได้มากขึ้น ตาม backlog รวมถึงงานประมูลใหม่ๆที่เพิ่มขึ้น

ราคาหุ้น underperform SET -12% ใน 6 เดือน จากกำไร 1Q23 ที่ปรับตัวลง แต่กลับมา outperform SET +11%/+4% ใน 1 เดือน และ 3เดือน จากกำไร 2Q23 ที่กลับมาเติบโตดี และมีการซื้อหุ้นคืน ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากกำไร 3Q23E ที่ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง รวมถึงปี 2023E-24E จะเติบโตดี +18% CAGR ขณะที่ ITNS ยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนขยายธุรกิจใหม่ๆ เช่น ให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์, งาน cyber security และ cloud service ที่จะมีความชัดเจนภายในปี 2023E  

ด้าน valuation ปัจจุบันน่าสนใจ เทรด 2023E PER ที่ 12.3 เท่า คิดเป็น -1.0SD จากค่าเฉลี่ยในอดีต