บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนบางแห่ง ได้กล่าวอ้างผู้บริหารระดับสูง มีความเกี่ยวข้องคดีพิพาทฯ ของบริษัทย่อยฯ คือคดี สน.สวนลุมพินี
บริษัทฯ ชี้แจงว่า บริษัทที่มีกรณีพิพาท คือ ธุรกิจ Token utilities พร้อมใช้ ประเภทจำกัดจำนวนผู้ซื้อและอยู่ในการซื้อขาย ซึ่งเป็นประเภทไม่จำเป็นต้องมีการขออนุญาต กลต. มีคดีพิพาทอยู่ตามที่เคยเปิดเผยทางช่องทางตลาดหลักทรัพย์ และผู้บริหารที่มีอำนาจสูงสุดในการดำเนินงานคือ กรรมการผู้จัดการบริษัทย่อย กล่าวคือ บริษัท วิสเดน กรุ๊ป จำกัด ผู้มาจากสายงาน IT สามารถจัดการเรื่องธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว
เนื่องจากบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) คือ ผู้ผลิตเหล็กกัลวาไนซ์แปรรูป ซึ่งเป็นธุรกิจหลักซึ่งอยู่ในฐานะผู้ลงทุน และภายหลังผู้บริหารท่านนี้มีการเปลี่ยน ชื่อ สกุล ไปแล้วสามครั้ง นายพิศาล อึงชุมโชค เปลี่ยนชื่อครั้งที่ 1 นายพลภาวิชญ์ พิมพ์เดชาพานิชเปลี่ยนชื่อครั้งที่ 2 นายศักดิ์ธนธัช พิมพ์เดชพานิชบริษัทกำลังอยู่ในขณะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารดังกล่าว คดีที่สืบเนื่องมาจากผู้บริหารสายงาน IT ซึ่งคดีที่ฟ้องร้องจึงเป็นคดีที่มีผลสืบเนื่องจากกรรมการผู้จัดการท่านนั้นที่มาจากสายงาน IT ในบริษัท Token utilities ซึ่งอยู่คนละห้วงเวลากันกับกรรมการที่บริษัทส่งไปตรวจสอบ บริษัทย่อยจึงเป็นคดีที่สืบเนื่องจากธุรกรรมของกรรมการผู้จัดการท่านนั้น และบริษัทอยู่ในขณะดำเนินการปิดธุรกิจ Token utilities พร้อมใช้ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดังที่ ชี้แจงไปก่อนหน้าผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นที่ปรากฏชัดเจนว่ากรรมการผู้จัดการท่านนี้มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจจาก และการวางแผนที่ซับซ้อนมาอย่างดีอันเป็นเจตนาไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่ต้นและสร้างสถานการณ์หลายอย่างเพื่อดึงผู้บริหารระดับสูงให้เกี่ยวข้อง
บริษัทฯ ชี้แจงว่าบริษัทฯ ไม่มีพัฒนาการที่สำคัญนอกจากธุรกิจเหล็กแปรรูป ประเภทท่อร้อยสายไฟและท่อเหล็กกัลวาไนซ์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ
บริษัทจะถอดบทเรียนจากความผิดพลาดนี้เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนบริษัทฯ เพื่อกลับมาสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นโดยกลับมาเน้นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญ
บริษัทฯ มีแผนดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่พยายามสร้างความเสื่อมเสียกับบริษัทฯ โดยปราศจากข้อมูลที่ครบถ้วน
ที่เกี่ยวข้อง
