จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : 5 ปัจจัยหนุนหุ้น SNNP แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท


02 กุมภาพันธ์ 2566
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP)  รับอานิสงส์การบริโภคฟื้นตัว  ท่องเที่ยวกลับมาบูม  รายได้ที่เวียดนามทำสถิติสูงสุด  หนุนผลประกอบการปี 2566 โตก้าวกระโดด  โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ”

รายงานพิเศษ 5 ปัจจัยหนุนหุ้น SNNP 020223.jpg

บล.ดาโอ  วิเคราะห์หุ้น บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 30.00 บาท บาท อิง 2023E PER ที่ 40.0x โดย outlook ของ SNNP ยังเป็นไปตามคาด มีประเด็นสำคัญ ดังนี้

1) ตั้งเป้ารายได้ปี 2023E ขยายตัว double digits YoY และ GPM ขยายตัว และมั่นใจในปี 2025E รายได้จะแตะ 8,000 ล้านบาท (เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ตอน IPO ที่ปี 2026E) 
2) ตั้งเป้ารายได้เวียดนามปี 2023E ที่ 1,000 ล้านบาท (ใกล้เคียงเราคาด) โดยบริษัทคาดรายได้เวียดนามปี 2022E ที่ 630-655 ล้านบาท คาดรายได้เวียดนาม 4Q22 ทำสถิติสูงสุดใหม่ หากที่เวียดนาม commercial run ครบทั้ง 3 เฟส GPM ของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอีก 5-10% (ปกติ GPM เวียดนามอยู่ที่ 30-32%) เป็น upside ต่อประมาณการปี 2024E, 
3) ใน 4Q22 รายได้จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวเร็วกว่าคาด รายได้จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวถึง 70% ของรายได้ก่อนโควิด จากกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะเวียดนาม แม้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในเดือน ธ.ค. และ ม.ค. ที่ยังน้อย 
4) มีแผนออก food supplement ในช่วงปลาย 3Q – ต้น 4Q23 ซึ่งยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของบริษัท 
5) เผยแนวโน้มกำไร 4Q22E เติบโต YoY, QoQ ทำสถิติสูงสุดใหม่จากรายได้ทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องและ GPM ขยายตัว โดยเราประเมินกำไรสุทธิ 4Q22E ที่ 166 ล้านบาท (+37% YoY, +17% QoQ) เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2022E ที่ 529 ล้านบาท (+71% YoY)

สำหรับปี 2023E  บริษัทประเมินกำไรปกติที่ 722 ล้านบาท (+37% YoY) หนุนโดยการบริโภคฟื้นตัว และ GPM ขยายตัว ราคาหุ้น outperform SET +23%ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ 2023E PER ที่ 32.4x เทียบกับ core EPS profit CAGR (2022E-24E) ที่ +32% YoY และยังมี upside จากสินค้านวัตกรรม และการรุกทำตลาดในประเทศใหม่ โดยเฉพาะ ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และจีน

ขณะที่ผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล”  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ  SNNP  มั่นใจปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นเป็นเลข 2 หลัก จากปี 2565 เนื่องจากยอดขายจากต่างประเทศคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยเฉพาะในเวียดนาม  และเชื่อว่า ยอดขายในปี2566  จะเติบโตแตะระดับ 1,000 ล้านบาท จากปี 2565 ที่คาดว่าจะทำได้ที่ระดับ 600 ล้านบาท

ซึ่งเป็นผลจากการเริ่มเดินเครื่องผลิตโรงงานใหม่ ในเดือน พ.ค.2566 ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30% ทั้งนี้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยวางเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปี 2565 ที่อยู่ระดับ 30%

ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าให้ข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์)  โดยในช่วงต้นปี 2566  บริษัทวางแผนเดินสายโรดโชว์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2566   ที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส,  วันที่ 1-3 ก.พ.2566 จะโรดโชว์กับกองทุนสิงคโปร์ และวัน 13-14 ก.พ.2566 ธนาคารซิตี้แบงก์ จะไปเยี่ยมชมโรงงานที่ประเทศเวียดนาม