จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : PRM ไตรมาส2 โตแข็งแกร่ง โบรกฯประสานเสียงแนะนำ “ซื้อ”


08 มิถุนายน 2566
ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางเรือกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก  หนุนผลงานบริษัท พริมา มารีน (PRM) ไตรมาส 2 ขยายตัวโดดเด่น บล.ฟิลลิปประสานบล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ”

รายงานพิเศษ PRM.jpg

บล.ฟิลลิป วิเคราะห์หุ้นบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM โดยระบุว่า  1Q66 กำไร 577 ลบ +110.8% y-y ตามคาด: แม้รายได้ต่ำคาด แต่ต้นทุนและ SG&A ต่ำคาดเช่นกัน รายได้+42.5% ที่ 2,101 ลบ. ธุรกิจส่วนใหญ่ฟื้นตามสถานการณ์ โควิดและเรือที่เพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะเรือขนาดใหญ่ในการขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและธุรกิจออฟชอร์ต้นทุน +24.9% ตามเรือที่เพิ่มขึ้น แต่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลงและ U Rate ที่ดีขึ้น และ SG&A +14.6% มีก าไร Fx ที่ 22 ลบ. จากปี ก่อนที่ 7 ลบ. จากเงินบาทแข็งค่า ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมลดลงบริษัทร่วมได้ขายเรือออกไป และรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าเสียเวลาเรือเพื่อรอเข้างาน

2Q66 แนวโน้มยังดี: คาด 2Q66 แนวโน้มดีต่อเนื่อง จากเรือ AWB ที่เข้า Dry Dock จะกลับเข้ามาทำงานในเดือน พ.ค. และขนส่งระหว่างประเทศ 1 ลำเข้าทำสัญญา Time Charter อีกทั้งเป็น high season ของการใช้น้ำมัน Jet-A1 ทางภาคใต้ และเรือเคมีลำใหม่ขนาด 1 หมื่นเดทเวทตัน  เริ่มงานใน 2Q66 รวมถึงผลบวกจากเรือที่รับมาระหว่างปี 2565 โดยเฉพาะเรือ VLCC ที่เข้ากองเรือครบ 4 ลำปลายปี 2565   ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.95  บาท

ขณะที่บล.ทิสโก้ ระบุ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 38.3% เมื่อเทียบกับ 29.6% ใน 1Q22 แต่ลดลงจาก 39.7% ใน 4Q22 โดยการลดลงมาจากธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศที่ลดลงจากการสิ้นสุดสัญญา Time Charter กับลูกค้า และธุรกิจ Offshore มีการซ่อมบำรุงเรือ แต่ธุรกิจอื่นๆ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอัตราการใช้บริการเรือที่เพิ่มขึ้นทั้งขนส่งในประเทศ และ FSU สำหรับค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้น YoY ตามรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้น ด้วยการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 27.5%

คาด 2Q23F จะกลับมาเติบโต QoQ ได้
เราคาดรายได้และกำไรใน 2Q23F จะเติบโต YoY, QoQ หลังจากเรือที่เข้าอู่แห้ง ทั้งเรือ FSU 1 ลำ กลับเข้าให้บริการใน พ.ค. และเรือนวธานีให้บริการในกลาง เม.ย. รวมกับเรือขนส่งเคมี 1 ลำที่เริ่มให้บริการใน พ.ค. นี้ ซึ่งเราคาดรายได้จะกลับไปใกล้เคียงกับ 4Q22 และคาดจะทำให้อัตราให้บริการและมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น โดยเรายังคงประมาณการผลประกอบการของเรา โดยคาดกำไรหลักอยู่ที่ 1,678 ล้านบาท (63% YoY) 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 10 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมมาอยู่ที่ 10 บาท อิงจาก PER 15 เท่า 2023F จากค่าเฉลี่ยซื้อขายในอดีตนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ ของบริษัท ปัจจุบัน PRM ซื้อขายอยู่ที่ 9 เท่าปี 2023F  ซึ่งซื้อขายอยู่ที่เพียง -0.5 SD ค่าเฉลี่ยในอดีต ด้วยแนวโน้มการเติบโตและมูลค่าที่น่าสนใจ ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุนของบริษัท 
PRM