จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : โรงไฟฟ้า Solar เข้าช่วง high season หนุนผลงาน SSP โตตามเป้า


31 มีนาคม 2566
ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง จากภาวะโลกร้อนที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ที่โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ”  ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 12x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เทรดราว 20x

รายงานพิเศษ โรงไฟฟ้า Solar เข้าช่วง high season หนุนผ.jpg

บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP)  โดยระบุว่า บริษัทยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 14.00 บาท อิงวิธี DCF (average WACC 5.0%, terminal growth 0%)  ทั้งนี้ประเมินกำไรปกติ 1Q23E ที่ 266 ล้านบาท (-10% YoY, +48% QoQ) YoY ลดลงจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปิด project finance ใน 4Q22 และรายได้ที่หายไปหลังการขายโครงการ Hidaka 15MW  ส่วน QoQ เพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโซลาร์ 

โดยเบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2023E ที่ 1.1 พันล้านบาท (+10% YoY) ในขณะที่แนวโน้ม 2Q23E คาดกำไรปกติยังเติบโตได้ QoQ จากปัจจัยฤดูกาลโรงไฟฟ้า Solar เข้าช่วง high season ราคาหุ้นกลับมา เคลื่อนไหวใกล้เคียง SET ในช่วง 3เดือนที่ผ่านมาหลัง underperform ในช่วงก่อนหน้า คาดมาจากตลาดเริ่มกลับมาให้น้ำหนักกับการประกาศผลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทย 5.2GW ในวันที่ 5 เม.ย.23  เชื่อว่าจะเป็น key catalyst ให้หุ้นกลับมา outperform ตลาดได้ต่อ 

นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 12x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เทรดราว 20x ยัง laggard กลุ่มอยู่มาก

บล.ดาโอ คาดกำไรปกติ 1Q23E ฟื้นตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ประเมินกำไรปกติ 1Q23E ที่ 266 ล้านบาท (-10% YoY, +48% QoQ) YoY ลดลงจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปิด project finance ใน 4Q22 และรายได้ที่หายไปหลังการขายโครงการ Hidaka 15MW ออกไปเมื่อ มิ.ย.22 ชดเชยบางส่วนจากการรับรู้โครงการร่มเกล้าวินฟาร์มเต็มไตรมาส 11 MW ส่วน QoQ เพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโซลาร์จะมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น โดยรายได้รวมประเมินที่ 836 ล้านบาท (-2% YoY, +20% QoQ) และ GPM ที่ 60% (+1.4ppt YoY, +8.6ppt QoQ) ส่วนดอกเบี้ยจ่ายประเมินที่ 165 ล้านบาท (+33% YoY, -15% QoQ)

จึงคงประมาณการกำไรปกติปี 2023E แนวโน้ม 2Q23E ฟื้นตัวต่อ QoQ จากปัจจัยฤดูกาลเบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2023E ที่ 1.1 พันล้านบาท (+10% YoY) key driver เป็นการรับรู้รายได้เต็มปีโครงการร่มเกล้าวินฟาร์ม 11MWe เต็มปีและ Solar rooftop ซึ่งจะทยอย COD ใน ปี 2023E อีกราว 18MW ในขณะที่แนวโน้ม 2Q23E คาดกำไรปกติยังเติบโตได้ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล โรงไฟฟ้า Solar เข้าช่วง high season

ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท อิงวิธี DCF (average WACC 5.0%, terminal growth 0%) ทั้งนี้ key catalyst คือการได้โครงการใหม่มาพัฒนาเพิ่มเติมจาก active investment ของบริษัททั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการประกาศผลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทย 5.2GW และแผน Master plan 8 ของเวียดนามจะทำให้มี potential projects ออกสู่ตลาดอีกมาก

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (SSP) นายวรุตม์  ธรรมาวรานุคุปต์  ระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าร่วมการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ในประเทศไทย ซึ่งจะมีความชัดเจนในเดือน มี.ค.66 การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 17 เมกะวัตต์  ซึ่งคาดว่ามีความพร้อมที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 4/67 การลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม  ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวทะลุ 500 เมกะวัตต์ในปี 68  จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 236 เมกะวัตต์ 

นอกจากนี้ ช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทยังได้จัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures เพื่อลุยธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโต และสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานในอนาคตให้เติบโตก้าวแบบกระโดด
         
"ที่ผ่านมา SSP ประสบความสำเร็จในการเป็นโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ มีทั้งการเริ่มพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้น และการใช้กลยุทธ์ทำ M&A ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 66 บริษัทจะมีแนวโน้มรายได้และกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้" นายวรุตม์ กล่าว
SSP