ระเบิดเวลา THAI ก.พ. 69 ปลดล็อกหุ้นแปลงหนี้ เสี่ยงโดนขาย 6.6 พันล้านหุ้น
THAI ยังมีแรงกดดันหนัก ใกล้ถึงช่วงเจ้าหนี้ที่ได้หุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุน เริ่มขายหุ้นได้ 25% หรือ 6.6 พันล้านหุ้น ตั้งแต่ 3 ก.พ.69 แถมทิศทางรายได้ไตรมาส 4/68 ชะลอตัว แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า แนะนำ “ถือ” THAI ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท โดย PER ลงมาซื้อขายที่ 7 เท่า (Asia Pacific Airlines อย่าง JAL, ANA อยู่ที่ 10 เท่า) น่าจะสะท้อนการดำเนินงานที่จะท้าทายขึ้นในปีหน้า ตามภาวะอุตสาหกรรมการบินไปบ้างแล้ว
แต่การใกล้ถึงช่วงเจ้าหนี้ที่ได้หุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุน เริ่มขายหุ้นได้ 25% หรือ 6.6 พันล้านหุ้น (สัดส่วน 23% ของทุนจดทะเบียน) ตั้งแต่ 3 ก.พ.69 ยังเป็นปัจจัยหน่วงราคาหุ้นข้างหน้า แม้ราคาหุ้นจะมี Upside ก็ตาม
สำหรับข้อมูล Stat พ.ย. 68 ชะลอตัว โดยจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 1.36 ล้านคน ลดลง 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ Available Seat Kilometers : ASK อยู่ที่ 5.7 ล้านที่นั่ง - กม. พลิกเป็นลบครั้งแรกในรอบปีที่ระดับ 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ Cabin factor เท่ากับ 77.8% จาก 83.6% ช่วงเดียวกันปีก่อน (ไตรมาส 3/68 ที่ 76.8% และ ต.ค. 68 ที่ 77.9%)
โดย Cabin factor เส้นทาง Domestic อยู่ที่ 91.1% (พ.ย. 67 ที่ 92.2%), Regional ราว 79.6% (พ.ย. 67 ที่ 82.9%), Australia ที่ 72.4% (พ.ย. 67 ที่83.5%) และยุโรปอยู่ที่ 76.5% (พ.ย. 67 ที่ 83.8%) ขณะที่ Passenger yield แม้ ต.ค. - พ.ย. เฉลี่ยเพิ่ม 6-7% จากไตรมาส 3/68 ตาม ฤดูกาล แต่ลดลงราว 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าการชะลอตัวของ Cabin factor เส้นทางบินยุโรป (สัดส่วนราว 35% ของรายได้รวมช่วง 9 เดือนปี 68) ช่วง พ.ย. สวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปมาไทยช่วงเดียวกันซึ่งสูงขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เส้นทางอื่นเป็นไปในทิศทางเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย อาทิ นักท่องเที่ยวออสเตรเลียมาไทย ลบ 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) สะท้อนการแข่งขันระหว่างสายการบินรุนแรงขึ้น
ภายใต้ประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เทียบ 9 เดือนปี 68 ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท (ไตรมาส4/68F จะคงเหลือราว 9.6 พันล้านบาท เทียบ 1.2 หมื่นล้านบาท งวดไตรมาส 4/67) ประมาณการมี Downside จำกัด แม้ทิศทางรายได้ไตรมาส 4/68 ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ค่าซ่อมบำรุงและดอกเบี้ยจ่ายลด ช่วยประคอง (ไตรมาส3/68 รายได้ลบ 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไร ที่ 5.4 พันล้านบาท เพิ่มจากฐานต่ำ 1.3 พันล้านบาทงวดไตรมาส 3/67)
ขณะที่ประมาณการกำไรปกติปี 2569 ปัจจุบันอยู่ที่เติบโต 2% จากปีก่อน (เทียบบวก 49% ในปี 2568) อย่างไรก็ตาม Cabin factor พ.ย. ของยุโรปที่มีสัญญาณชะลอตัว ทำให้ฝ่ายวิจัยมองว่าสถานการณ์เริ่มมีความท้าทายขึ้น โดย Sensitivity Analysis พบว่าทุก 5% ของรายได้รวมที่ต่ำกว่าสมมติฐาน จะส่งผลให้กำไรฯ และ FV เปลี่ยนแปลง 18%