Talk of The Town

กลุ่มอิเล็กฯ กำไรสะดุด เงินบาทแข็งอาจทำพิษ โบรกฯ คาดทุก 1 บาท ฉุดกำไร 7-10%


25 ธันวาคม 2568

โบรกฯ หวั่นเงินบาทแข็งกดกำไรครึ่งปีแรกปี 69 กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คาดเงินบาทแข็งทุก 1 บาท จะกระทบกำไรราว 7-10 %

กลุ่มอิเล็กฯ กำไรสะดุด_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทำผลงานดีกว่า SET อย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 17% เทียบกับ SET ที่ลดลง 9% หลังจากอ่อนแอในไตรมาส 1/68 จากความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จากจุดต่ำสุด ราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจนี้ฟื้นตัวเฉลี่ยราว 50%

โดยได้แรงหนุนจากความชัดเจนของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และความต้องการที่เร่งตัวขึ้นจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล (data center) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดย DELTA เป็นหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุด

สำหรับแนวโน้มธุรกิจกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มฟื้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/68 และปี 2569 โดย DELTA โดดเด่นด้วยรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 20% จากไตรมาสก่อนและบันทึกอัตรากำไรขั้นที่เกือบ 28% ขณะที่ SVI คาดว่ารายได้จะทรงตัว ส่วน KCE มองว่ากำไรจะปรับดีขึ้นจากการลดต้นทุน แม้จะมีแผนปิดซ่อมบำรุง ขณะเดียวกัน HANA ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยคาดว่าจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยจากการขาดทุนของ PMS

หากมองไปยังปี 2569 DELTA ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% จากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ AI และการขยายกำลังการผลิต ขณะที่ SVI คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากสินค้าอุตสาหกรรมและโรงงานในสหรัฐฯ ส่วน KCE มองการฟื้นตัวที่นำโดยอัตรากำไรจากการลดต้นทุนและการขยายธุรกิจ HDI และ HANA ยังคงอ่อนแอที่สุด โดยการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของธุรกิจ PMS

ความเสี่ยงด้าน FX และนโยบายการค้าทวีความรุนแรงขึ้น จึงปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยน (FX) เป็น 32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2568 และ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2569 เพื่อสะท้อนการชะลอตัวของยอดส่งออกโดยรวม และความเสี่ยงภายนอกที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่ายังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากการพึ่งพาการส่งออกสูง โดยการแข็งค่าของเงินบาททุกๆ 1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะส่งผลให้กำไรลดลง 7% สำหรับ DELTA และ KCE และ 10% สำหรับ HANA และ SVI

นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่มความกังวลที่ว่าสหรัฐฯ อาจกลับมาใช้มาตรการภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือในการคลี่คลายสถานการณ์ จากระดับปัจจุบัน 19% ไปใกล้ระดับเดิมที่ราว 36%

ทั้งนี้ คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในครึ่งแรกของปี 2569 จากแรงกดดันต่ออัตรากำไรตามเงินบาทที่แข็งค่า และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจกระตุ้นให้สหรัฐฯ หันใช้มาตรการด้านภาษีศุลกากร จึงมองว่าปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดดาวน์ไซด์ต่อประมาณการกำไร โดย KCE ยังคงเป็นหุ้นเด่น จากแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น และการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นอย่างต่อเนื่องจากการลดต้นทุน