คปภ. สั่ง “ไทยประกันชีวิต” ดำเนินการ 3 แนวทางกรณีตัวแทนประกันชีวิตฉ้อฉล
สำนักงาน คปภ. เรียก “บมจ.ไทยประกันชีวิต” เข้าชี้แจง ติดตามความคืบหน้ากรณีตัวแทนประกันชีวิต ฉ้อฉลเบี้ยประกันภัย พร้อมสั่งเยียวยาผู้เสียหายเร่งด่วน และให้ทบทวนและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในทุกมิติ
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีตัวแทนประกันชีวิตรายนางสาวจันเกตุ ทับบุญ กระทำการฉ้อฉลเบี้ยประกันภัย ซึ่งสร้างความเสียหาย เป็นเงินจำนวนมาก
โดยยอมรับว่า กรณีการฉ้อฉลที่เกิดขึ้นนั้น สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมประกันภัย ดังนั้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับการเยียวยาโดยเร็ว และเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับคืนมา แม้ว่าสำนักงาน คปภ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนรายดังกล่าวแล้ว การกระทำของตัวแทนดังกล่าวเป็นความผิดอาญา ฐานฉ้อฉลประกันภัยด้วย ซึ่งจะได้มีการประสานพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นสำนักงาน คปภ. จะยังคงต้องตรวจสอบและติดตามบริษัทอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อทราบและประเมินถึงสาเหตุ รวมถึงประสิทธิภาพของระบบการควบคุมภายในในทุกมิติ ตลอดจนการติดตามการเยียวยาผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด จึงได้สั่งการให้บริษัทเร่งดำเนินการ โดยกำหนดระยะเวลาในการเยียวยา พร้อมทั้งสั่งให้บริษัทปรับปรุงแก้ไขกระบวนการบริหารความเสี่ยง ระบบการควบคุมภายใน และการปฏิบัติตามกฎหมายของระบบงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำหนดมาตรการ เชิงป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติม เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในอนาคต ดังนี้
1. บริษัทต้องคืนเบี้ยประกัน หรือคืนสถานะกรมธรรม์ประกันภัยกรณีต่ออายุ รับประกันชีวิตโดยถือเสมือนว่าได้รับเบี้ยประกันภัยแล้ว หรือเสนอทางเลือกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง โดยต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ถูกต้อง และไม่เลือกปฏิบัติ หากบริษัทปฏิเสธการดำเนินการดังกล่าว จะต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยว่า ผู้เอาประกันภัยรายใดเป็นการเฉพาะ ที่ร่วมกันดำเนินการโดยทุจริตกับตัวแทนรายดังกล่าวพร้อมทั้งต้องพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด ทั้งนี้ หากบริษัทเพิกเฉยหรือไม่ชดใช้เงิน ไม่คืนเบี้ยประกัน หรือไม่เสนอทางเลือกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยรายใด สำนักงาน คปภ. จะยกระดับการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
2. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ฉ้อฉลเบี้ยประกันภัย บริษัทต้องตรวจสอบระบบการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนโดยทันที พร้อมปรับปรุงแก้ไขระบบงานต่าง ๆ ให้มีความเพียงพอ มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทต้องรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงาน คปภ. อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเยียวยาและแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น
3. ให้บริษัทเร่งดำเนินการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่แสดงถึงความรับผิดชอบ ในการเยียวยาผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยหรือลูกค้าของบริษัท มิให้ได้รับผลกระทบ และเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยไทย
ทั้งนี้ ได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าวข้างต้น
“สำนักงาน คปภ. จะติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติตามคำสั่งอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากพบการไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติไม่ครบถ้วน สำนักงาน คปภ. พร้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและความมั่นคงของระบบประกันภัยไทยในระยะยาว”