OR เติบโตอีกยาว! โบรกฯ เพิ่มกำไรปี 68 เกิน 1 หมื่นลบ. อัพราคาเป้าเป็น 15.90 บาท เชียร์ “ซื้อ”
นักวิเคราะห์อัพเป้า OR เป็น 15.90 บาท แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้นอีก 13% คาดปี 68 ทะยาน 10,436 ล้านบาท เติบโต 22% หลังค่าการตลาดพุ่ง 0.95 บาท แถมกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบอยู่เพียง 1 หมื่นล้านบาท ปิดความเสี่ยงภาครัฐจะกลับมาแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมัน
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปรับคำแนะนำ OR ขึ้นเป็น “ซื้อ” จาก “TRADING” และปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2569 เพิ่มขึ้นเป็น 15.90 บาท/หุ้น มี Upside 21.4%
ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงราว 4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและความเสี่ยงเกี่ยวกับการบันทึกรายการ Stock loss ในช่วงไตรมาส 4/2568 ไปบางส่วนแล้ว (ผลจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง)
โดยราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่บน PER2569 ที่ระดับ 14.8 เท่า ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมันในต่างประเทศ โดยมองว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าตามทิศทางเศรษฐกิจที่มีโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงครึ่งแรกขแงปี 2569 (คาดมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่) รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจโรงแรม (คาดมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า)
ขณะที่เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/2568 อยู่ที่ระดับ 2,400 ล้านบาท (แบบบวกลบ) เติบโตได้เล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แม้คาดค่าการตลาดน้ำมันรวมมีโอกาสลดลงจากฐานที่สูงในไตรมาส 3/2568 ตามการบันทึกรายการ Stock gain ที่น้อยลง (คาดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.95-1.00 บาท/ลิตร เทียบกับ 1.02 บาท/ลิตร ในไตรมาส 3/2568) เพราะคาดปริมาณขายน้ำมันรวมและปริมาณขายของ Café Amazon ที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาล (เข้าสู่ช่วง High Season ของการเดินทางในประเทศ) จะสามารถชดเชยผลกระทบได้
ขณะที่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดกำไรปกติลดลงเล็กน้อยตามปริมาณขายน้ำมันรวมที่ลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อน (ปริมาณขายน้ำมันในไตรมาส 4/2567 เป็นระดับสูงสุดรายไตรมาสที่ 7,075 ล้านลิตร) นอกจากนี้คาดกำไรปกติยังถูกกดดันจากค่าใช้จ่าย SG&A และค่าใช้จ่ายทางภาษีที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ปรับประมาณการกำไรปี 2568-69 ขึ้น 13% โดยปี 2568 คาดมีกำไร 10,436 ล้านบาท เติบโต 22% จากปีก่อน และปี 2569 คาดมีกำไร 10,608 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อน ตามการปรับสมมติฐานค่าการตลาดน้ำมันรวมสำหรับช่วงดังกล่าวขึ้นเป็น 0.95 บาท/ลิตร (เดิม 0.85 บาท/ลิตร) เพื่อสะท้อนค่าการตลาดน้ำมันรวมที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับ 0.90-1.00 บาท/ลิตร อย่างต่อเนื่อง (สอดคล้องกับ Guidance ของบริษัทฯ)
ทั้งนี้เนื่องจาก 1. ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงส่งผลให้ฐานะทางการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบอยู่เพียง 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งน้อยลงกว่าในช่วงสิ้นปี 2567 ที่ติดลบอยู่ที่ระดับ 7.8 หมื่นล้านบาท มาก (ทำให้ประเมินว่ามีโอกาสไม่มากที่ภาครัฐจะกลับมาแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันอีกครั้งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า) และ 2.อัตรากำไรขั้นต้นของการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Jet Fuel) ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ยอดนิยม
สรุปหุ้นเข้าคำนวณดัชนีครึ่งแรกปี 69 SAWAD-CENTEL กอดคอ เข้า SET50 ฟาก PTG-STECON-GFPT เข้า SET100
NTF เทรดวันนี้ ตะลึง! เคจีไอ ให้เป้าสุดเดือด 30 บาท หนุนอัพไซด์สูงถึง 400% จากราคา IPO
GULF เผยโซลาร์ฟาร์ม 109 MW จ่ายไฟเข้าระบบให้ กฟผ.ตามสัญญา 25 ปี แย้มสิ้นปี 68 มีโรงไฟฟ้าจ่ายไฟเพิ่มอีก
เกาะติดหุ้น THAI เข้า FTSE SET Large-Cap Index คาดปริมาณซื้อขาย-ราคาขยับตาม