Talk of The Town

โบรกฯ ชี้ MAJOR สะเทือน ดีล Netflix ฮุบ Warner Bros ซัพพลายหนังหาย ฉุดรายได้-กำไร


11 ธันวาคม 2568

MAJOR โบรกฯ คาดดีล Netflix ซื้อ Warner Bros อาจทำคอนเทนต์ภาพยนตร์ทั้งหมดลงสตรีม ทำซัพพลายภาพยนตร์ในตลาดลดลง 15% กระทบกำไร MAJOR ช่วงปี 70-72 ถึง 4.5%

โบรกฯ ชี้ MAJOR สะเทือน_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมอง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. Netflix Inc. และ Warner Bros. Discovery Inc. (WBD) ประกาศว่าได้ทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งตามข้อตกลงนี้ Netflix จะเข้าซื้อกิจการ WBD รวมถึงสตูดิโอภาพยนตร์และโทรทัศน์ของบริษัท รวมทั้ง HBO Max และ HBO โดยคาดว่าธุรกรรมนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 12-18 เดือน

โดย WBD (มูลค่า 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นหนึ่งในสามสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่ที่จัดหาภาพยนตร์คิดเป็นประมาณ 15% ของส่วนแบ่งตลาดการฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในแต่ละปี ผลงานลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ของ WBD ได้แก่ DC universe (Batman, Aquaman เป็นต้น), Harry Potter เป็นต้น

สำหรับค่าใช้จ่ายด้านคอนเทนต์เป็นเงินสดต่อปีของ WBD อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2567 ธุรกิจของ WBD ยังครอบคลุมรายการทีวี รายการเคเบิลทีวี (HBO) และแพลตฟอร์มสตรีมมิงแบบตรงถึงผู้บริโภคภายใต้ HBO Max

ในขณะเดียวกัน Netflix ซึ่งมีมูลค่าตลาด 4.26 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นแพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด มีผู้สมัครสมาชิกแบบชำระเงินกว่า 300 ล้านรายในกว่า 190 ประเทศ ค่าใช้จ่ายด้านคอนเทนต์เป็นเงินสดต่อปีของ Netflix อยู่ที่ประมาณ 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2567

หากธุรกรรมนี้สามารถดำเนินไปตามแผน การเปลี่ยนแปลงในทิศทางธุรกิจของ WBD น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2570-2571 โดยแม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกลยุทธ์หลังการเข้าซื้อกิจการของ Netflix แต่คาดว่า Netflix จะมีตัวเลือกสามแนวทางเกี่ยวกับกลยุทธ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ได้แก่ 1. การยอมรับช่องทางฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ 2. การยกเลิกช่องทางฉายในโรงภาพยนตร์โดยสมบูรณ์และ 3.กลยุทธ์ผสมผสาน เช่น การย่นระยะเวลาการฉาย เป็นต้น

ทั้งนี้ หาก WBD ภายใต้ Netflix ย้ายคอนเทนต์ภาพยนตร์ทั้งหมดออกจากช่องทางฉายในโรงภาพยนตร์ของบุคคลที่สามไปยังช่องทางสตรีมมิงของตนเอง อุปทานภาพยนตร์ในตลาดอาจลดลง 15% บนสมมติฐานที่ว่าตัวแปรอื่นคงที่ คาดผลกระทบทางการเงินต่อ MAJOR ในช่วงปี 2570-72 จะอยู่ที่ 4.4% ของรายได้ และ 4.5% ของกำไรปกติ และคาดกระทบต่อราคาเป้าหมายที่ 3.3%

อย่างไรก็ดี ยังแนะนำ “ซื้อ” MAJOR ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท จากความสนใจของ Netflix ในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ผ่านการจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ และโมเมนตัมการฟื้นตัวที่คาดว่าจะต่อเนื่องในไตรมาส 4/2568 และปี 2569 ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 2568 ที่ 7.9 เท่า เทียบกับอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 3 ปีของกำไรปกติต่อหุ้นที่ 9%