รายงานพิเศษ : SSP ก้าวเข้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ เร่งขยายพอร์ตทั้งในและต่างประเทศ ปี 69 เดินหน้า COD เพิ่ม 3 โครงการ
SSP เดินหน้าเข้าสู่ช่วงการเติบโตครั้งใหม่ ลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปักธงปี2569 เตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่ม 3 โครงการ รวมกว่า 170 เมกะวัตต์
บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่นหรือ SSP เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในเอเชีย จุดเริ่มต้นของ SSP เริ่มจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรก ณ จังหวัดลพบุรี ประเทศไทย กำลังการผลิต รวม 52 MW ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าทดแทน 4 ประเภท 1.โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, 2.โรงไฟฟ้าพลังงานลม, 3. โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และ 4. โรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน ปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกว่า 365 เมกะวัตต์
โครงการใหม่เพิ่มกำลังผลิต 400 MW
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงการเติบโตครั้งใหม่ ด้วยการขยายการลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความสำเร็จในการประมูลโครงการใหม่ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตในพอร์ตได้อีกกว่า 400 เมกะวัตต์ เข้าใน Project pipeline อย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมจัดหาเงินลงทุน เพื่อเสริมทัพการเติบโตอย่างมั่นคง
ออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ยคงที่ 4.30 - 4.50 %
บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 3/2568 จัดสรรให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยเป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 2 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.30 - 4.50% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ (ยกเว้นงวดดอกเบี้ยแรกซึ่งมีระยะเวลาน้อยกว่า 3 เดือน) โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB" แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ระยะยาว ไปแล้วจำนวนทั้งหมด 2 รุ่น รวมวงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อจะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ชุดเดิมที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน และรองรับการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy)
อัพรายได้ขายไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 บริษัทฯ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการโซลาร์ฟาร์ม Leo 2 ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 22 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัด Shizuoka ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตรอบใหม่ หลังจากซุ่มพัฒนาโครงการในช่วงที่ผ่านมา โดยโครงการโซลาร์ฟาร์ม Leo 2 เป็นการลงทุนผ่านบริษัท Ashita Power 2 G.K. (ASTP2) และ บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ TEPCO Energy Partners, Incorporated ถึงปี 2583 พร้อมรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาทันทีในไตรมาส 4/2568 หนุนรายได้บริษัทฯ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ปี 69 จ่อ COD เพิ่ม 3 โครงการ
ปี 2569 บริษัทฯ เดินหน้า COD โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่ม 3 โครงการ รวมกว่า 170 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแปรรูปขยะชุมชนอีก จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 19.8 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ในประเทศฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างยังเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะสามารถขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปี 2569 และจะทยอย COD โครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
ปี 73 พอร์ตโตทะลุ 790 MW
สำหรับโครงการในอนาคตของ SSP ตามแผน Pipeline มีมากถึง 410.3 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ( Renewable Energy) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 15 โครงการ รวม 410 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มรวม 189 เมกะวัตต์ โครงการวินด์ฟาร์มรวม 204 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 17 เมกะวัตต์ พร้อมกับตั้งเป้าปี 2573 จะโตเท่าตัว 790 เมกะวัตต์ สนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด
Q3/68 กำไรฯ พุ่ง 230.8% จากไตรมาสก่อน
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรหลักจากการดำเนินงานอยู่ที่ 119.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 742.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.0% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการอยู่ที่ 2,269.4 ล้านบาท จาก Wind speed โรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยค่าแรงลมดีเยี่ยม
คว้า CGR “ดีเลิศ” 5 ดาว 2 ปีซ้อน
บริษัทฯ ตอกย้ำผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในเอเชีย จากการได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) 2 ปีซ้อน จากโครงการสำรวจด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2568 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2025 : CGR) สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท ที่พัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลกิจการมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมในทุกมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) สู่การเป็นผู้นำในด้านพลังงานสีเขียวในทุกรูปแบบ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว
ทริสฯคงเครดิตองค์กร "BBB+"
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ "BBB+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี 2565 - 2568 สะท้อนว่า SSP มีกระแสเงินสดที่มั่นคง จากโครงการส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่ขายไฟให้แก่ภาครัฐ จึงมีความเสี่ยงต่ำ และจากการกระจายความเสี่ยงที่ดีของพอร์ต ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล และจากพลังงานขยะชุมชน ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งสร้างความสม่ำเสมอของรายได้