รายงานพิเศษ : TFG ยอดขายไทย-เวียดนามพุ่ง รายได้ร้านค้าปลีกเติบโต หนุนกำไรปี 68 โดดเด่น
บล.เคจีไอ คาดการณ์ว่า TFG จะรายงานกำไรสุทธิใน 3Q68F ที่ 1.7 พันล้านบาท (+37% YoY แต่ -32% QoQ) โดยที่ กำไรเติบโตแข็งแกร่ง YoY จะเกิดจากรายได้และอัตรากำไร (margin) ดีขึ้น แต่ที่กำไรแย่ลง QoQ จะเป็น เพราะ margin ลดลง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากราคาหมูที่ร่วงลงกลบผลบวกจากต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง หากกำไร 3Q68F เป็นตามเราคาด กำไรสุทธิใน 9M68F จะอยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท (+165% YoY) คิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา

การขยายธุรกิจร้านค้าปลีกและปริมาณขายดีช่วยขับเคลื่อนการเติบโต
คาดว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน อยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท ผลักดันจากรายได้ธุรกิจค้าปลีกที่แข็งแกร่งขึ้นและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม แต่รายได้อาจแผ่วลง 1% จากไตรมาสก่อน โดยที่ ยอดขายร้านค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 7.0 พันล้านบาท
จากอัตราการเติบโตของยอดขายในสาขาเดิม ราว 7–8% และการขยายเพิ่มสาขารวมเป็น 533 แห่ง (เพิ่มจาก 368 แห่งใน ไตรมาส 3/67 และ 462 แห่งในไตรมาส 2/68) แม้ปริมาณขายรวมจะเติบโตแข็งแกร่งถึง 20% จากไตรมาสก่อนแต่คาดว่า ธุรกิจสุกรจะลดลงทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อน จากราคาขายทั้งในไทยและเวียดนามร่วงลงมาก
ส่วนธุรกิจไก่ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากปีก่อน แต่จะอ่อนแอจากไตรมาสก่อน จากอุปสงค์การส่งออกชะลอตัว ในแง่ อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะเพิ่มขึ้น 3.5ppts จากปีก่อน อยู่ที่ 18.7% แต่ก็จะลดลง 5.3ppts จากไตรมาสก่อน จากมาร์จิ้นกลุ่มธุรกิจสุกรลดลงอย่างม นัยสำคัญ
นอกจากนี้ เราคาดว่าบริษัทจะบันทึกขาดทุนจากการตีมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพ (biological asset loss) ใน 3Q68F ราว 50 ล้านบาท จากมาร์จิ้นของกลุ่มธุรกิจสุกรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยน่าจะลดลงเหลือ 180 ล้านบาท ตามสถานะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย (interest-bearing debt) ของบริษัทลดลง
ในเบื้องต้น เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/68 ของ TFG จะดีขึ้นจากปีก่อน ปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาร้านค้าปลีกอย่าง ต่อเนื่องและปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยดันรายได้ให้ดีขึ้น แต่กำไรอาจอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดูกาลที่ส่งผลให้การส่งออกไก่ชะลอตัวลงและราคาหมูต่ำลงด้วย ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 7.8 พันล้านบาท และปี 2569 ที่ 5.6 พันล้านบาท
ปัจจุบัน เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” TFG ประเมินราคาเป้าหมาย 1H69F ที่ 7.35 บาท (อิงจากค่าเฉลี่ย P/E ในอดีตที่ 7.0x) ปัจจัยหนุนหลักจาก 1.สัดส่วนยอดขายร้านค้าปลีกสูง 2.การขยายกำลังการผลิต 3.คาด dividend yield สูงน่าสนใจราว 9-10% ต่อปี