Talk of The Town
เปิดรายชื่อ 5 หุ้นแบงก์ รับอานิสงส์คลังแก้ NPL 6.2 หมื่นลบ. โบรกฯแนะลงทุน “มากกว่าตลาด”
04 พฤศจิกายน 2568
คลัง-ธปท. ร่วมมือกับแบงก์ตั้ง AMC แก้ NPL รอบแรกที่ 6.2 หมื่นล้าน โบรกฯ ชี้จะช่วยเร่งให้ NPL ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยลดลงได้ รอบแรกจะรับซื้อหนี้ที่ 62,400 ล้านบาท ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก่อน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเด็น คลัง-ธปท. ร่วมมือกับแบงก์ตั้ง AMC แก้ NPL รอบแรกที่ 6.2 หมื่นล้าน ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบตั้ง AMC แก้ NPL รับซื้อหนี้เสียประชาชนที่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากสถาบันการเงิน 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' ยันทำแค่ครั้งเดียว สำหรับลูกหนี้ NPL ที่เกิดขึ้นก่อน 30 ก.ย.ปีนี้ เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบวินัยการเงินในอนาคต
โดยระยะแรกเป็นการดำเนินการแก้หนี้ NPL ผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC โดยเร็ว ซึ่งจะเสนอ ครม. ในวันที่ 11 พ.ย. 25 และ ธปท.จะลงนาม MOU กับธนาคารเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งในการดำเนินการในระยะแรกจะมีบัญชีลูกหนี้ที่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ 62,400 ล้านบาท
ทั้งนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดย JV AMC ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเร่งให้ NPL ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยลดลงได้ในอนาคต เพราะรอบนี้จะเน้นแก้หนี้รายย่อยที่ไม่มีหลักประกันก่อน ซึ่งจะมี BAM (Ari-AMC) และ SAM (เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการหนี้
โดยรอบแรกจะรับซื้อหนี้ที่ 62,400 ล้านบาท (จากทั้งหมดที่ 122,000 ล้านบาท) ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก่อน ส่วนกลุ่ม Non-banks จะเป็นรอบถัดไป โดยวงเงินที่ซื้อหนี้จะมาจากเงินที่เหลือจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ของทั้งหมดอยู่ที่ 44,000 ล้านบาท (แบ่งเป็นจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เหลือเงินอยู่ 26,000 ล้านบาท และจาก SFIs อีก 18,000 ล้านบาท)
ขณะที่ข้อดีของประเด็นนี้คือลูกหนี้ที่โอนเข้ามาใน AMC จะได้รับรหัสพิเศษ (รหัส 16) ในเครดิตบูโร ซึ่งทำให้ไม่ต้องรอถึง 3 ปี เพื่อขอสินเชื่อใหม่ หากลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ใหม่ที่ลดภาระแล้วได้ตามวินัยอาจจะเป็น 1, 3 หรือ 6 เดือน โดยสถาบันการเงินสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทันที
แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องรอรายละเอียดจาก ธปท. ในเรื่องของเงื่อนไขการร่วมทุน, สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิ-หน้าที่ของ AMC อีกที
ทั้งนี้ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันเรียงจากมากน้อยคือ KTB (27% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อข้าราชการ), TTB (7%), BAY (6%), KBANK (6%), SCB (5% รวมกลุ่มบริษัทย่อย)
ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KTB, SCB เป็น Top pick ให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.73 เท่า PBV และระดับ Dividend yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยยังคงเลือก KTB (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท), SCB (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 150 บาท) เป็น Top pick

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเด็น คลัง-ธปท. ร่วมมือกับแบงก์ตั้ง AMC แก้ NPL รอบแรกที่ 6.2 หมื่นล้าน ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบตั้ง AMC แก้ NPL รับซื้อหนี้เสียประชาชนที่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากสถาบันการเงิน 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' ยันทำแค่ครั้งเดียว สำหรับลูกหนี้ NPL ที่เกิดขึ้นก่อน 30 ก.ย.ปีนี้ เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบวินัยการเงินในอนาคต
โดยระยะแรกเป็นการดำเนินการแก้หนี้ NPL ผ่านกลไกการซื้อหนี้โดย AMC โดยเร็ว ซึ่งจะเสนอ ครม. ในวันที่ 11 พ.ย. 25 และ ธปท.จะลงนาม MOU กับธนาคารเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งในการดำเนินการในระยะแรกจะมีบัญชีลูกหนี้ที่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 2.36 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ 62,400 ล้านบาท
ทั้งนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดย JV AMC ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเร่งให้ NPL ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยลดลงได้ในอนาคต เพราะรอบนี้จะเน้นแก้หนี้รายย่อยที่ไม่มีหลักประกันก่อน ซึ่งจะมี BAM (Ari-AMC) และ SAM (เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการหนี้
โดยรอบแรกจะรับซื้อหนี้ที่ 62,400 ล้านบาท (จากทั้งหมดที่ 122,000 ล้านบาท) ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก่อน ส่วนกลุ่ม Non-banks จะเป็นรอบถัดไป โดยวงเงินที่ซื้อหนี้จะมาจากเงินที่เหลือจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ของทั้งหมดอยู่ที่ 44,000 ล้านบาท (แบ่งเป็นจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เหลือเงินอยู่ 26,000 ล้านบาท และจาก SFIs อีก 18,000 ล้านบาท)
ขณะที่ข้อดีของประเด็นนี้คือลูกหนี้ที่โอนเข้ามาใน AMC จะได้รับรหัสพิเศษ (รหัส 16) ในเครดิตบูโร ซึ่งทำให้ไม่ต้องรอถึง 3 ปี เพื่อขอสินเชื่อใหม่ หากลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ใหม่ที่ลดภาระแล้วได้ตามวินัยอาจจะเป็น 1, 3 หรือ 6 เดือน โดยสถาบันการเงินสามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทันที
แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องรอรายละเอียดจาก ธปท. ในเรื่องของเงื่อนไขการร่วมทุน, สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิ-หน้าที่ของ AMC อีกที
ทั้งนี้ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันเรียงจากมากน้อยคือ KTB (27% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อข้าราชการ), TTB (7%), BAY (6%), KBANK (6%), SCB (5% รวมกลุ่มบริษัทย่อย)
ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KTB, SCB เป็น Top pick ให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.73 เท่า PBV และระดับ Dividend yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยยังคงเลือก KTB (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท), SCB (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 150 บาท) เป็น Top pick
ยอดนิยม
ทองโลกเบรก Double Top โครงสร้างขาลงพัง! เปิดทาง Buy ตามเทรนด์ใหม่ ทองไทยไปต่อ! บวก 900 บาท จ่อทะลุ 66,000 บา
เป็นโอกาสลงทุน DELTA รับแรงหนุน AI-ดาต้าเซ็นเตอร์ แถม Q4/68 แกร่ง ดัน trailing EPS เพิ่ม
เลี่ยงหุ้นอิเล็กฯ-ส่งออก หลังเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี แถมยังเสี่ยงแตะ 30 บาท/ดอลลาร์
PTT-PTTEP รับอานิสงส์ หลังราคาน้ำมันทะยานกว่า 2.6% เหตุ เวเนซุเอลา-สหรัฐฯ ตึงเครียด