Talk of The Town
โบรกฯ คาด IRPC พลิกมีกำไร ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังสต๊อกน้ำมันเป็นบวก-GIM พุ่ง
03 พฤศจิกายน 2568
โบรกฯ มอง IRPC งบไตรมาส 3/68 มีกำไร 358 ล้านบาท พลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังกำไรขั้นต้นทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้น มีกำไรสต๊อกน้ำมันกว่า 581 ล้านบาท แต่ยังแนะ “ถือ” แม้มูลค่าถูกสุดในกลุ่ม แต่อัพไซด์ยังจำกัดและ ROE ยังต่ำสุด

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อผลประกอบการ IRPC ไตรมาส 3/68 คาดว่า จะกลับมามีกำไรสุทธิที่ 358 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 4.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/67 และขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/68
โดยการปรับตัวดีขึ้นคาดว่าจะมาจาก 1.กำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ (GIM) ที่เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกัน และ 2% จากไตรมาสก่อน เป็น 8.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล หนุนจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น 2.การกลับมามีกำไรสต๊อกน้ำมัน 581 ล้านบาทจากขาดทุน 5 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/67 และขาดทุน 2 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/68 และ 3.อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นที่ยังอยู่ในระดับสูง 200 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกัน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/68 จะกลับมาขาดทุนอีกครั้ง แม้ว่า GIM น่าจะปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับใกล้ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงล่าสุดและเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะส่งผลให้เกิดขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 4/68
ขณะเดียวกัน ข้อตกลงการขายสินทรัพย์ที่กำลังดำเนินอยู่คาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 1/69 ซึ่งอาจมีการรับรู้กำไรพิเศษในช่วงกลางปี 2569
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 1.12 บาท จากอัพไซด์ที่จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย และแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ที่อ่อนแอ แม้ว่ามูลค่าหุ้นของ IRPC จะถูกที่สุดในกลุ่มบริษัทโรงกลั่นและปิโตรเคมีของไทย แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ต่ำที่สุด ขณะเดียวกัน อัพไซด์จากการขายสินทรัพย์คาดว่าจะจำกัดอยู่ในแง่ของกระแสเงินสดมากกว่าการสร้างกำไรพิเศษผ่านงบกำไรขาดทุน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อผลประกอบการ IRPC ไตรมาส 3/68 คาดว่า จะกลับมามีกำไรสุทธิที่ 358 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 4.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/67 และขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/68
โดยการปรับตัวดีขึ้นคาดว่าจะมาจาก 1.กำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ (GIM) ที่เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกัน และ 2% จากไตรมาสก่อน เป็น 8.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล หนุนจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น 2.การกลับมามีกำไรสต๊อกน้ำมัน 581 ล้านบาทจากขาดทุน 5 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/67 และขาดทุน 2 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/68 และ 3.อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นที่ยังอยู่ในระดับสูง 200 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกัน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/68 จะกลับมาขาดทุนอีกครั้ง แม้ว่า GIM น่าจะปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับใกล้ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงล่าสุดและเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะส่งผลให้เกิดขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 4/68
ขณะเดียวกัน ข้อตกลงการขายสินทรัพย์ที่กำลังดำเนินอยู่คาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 1/69 ซึ่งอาจมีการรับรู้กำไรพิเศษในช่วงกลางปี 2569
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 1.12 บาท จากอัพไซด์ที่จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย และแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ที่อ่อนแอ แม้ว่ามูลค่าหุ้นของ IRPC จะถูกที่สุดในกลุ่มบริษัทโรงกลั่นและปิโตรเคมีของไทย แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ต่ำที่สุด ขณะเดียวกัน อัพไซด์จากการขายสินทรัพย์คาดว่าจะจำกัดอยู่ในแง่ของกระแสเงินสดมากกว่าการสร้างกำไรพิเศษผ่านงบกำไรขาดทุน
ยอดนิยม
GULF ลั่นกรณี KBANK ซื้อหุ้นคืน จำกัดสิทธิ "ซื้อขายหุ้น" ของบริษัทไม่ได้ แม้ KBANK ร่อนหนังสือวอนห้ามจำหน่าย
“พงษ์ศักดิ์” ทุ่ม 3.5 พันลบ. เทนเดอร์ SVI หุ้นละ 7.50 บาท ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
“เซียนมี่” รับทรัพย์ 146 ลบ. หลัง “พงศ์ศักดิ์” ทำเทรนเดอร์ หุ้น SVI ที่ราคา 7.50 บาท
โบรกฯ คาด IRPC พลิกมีกำไร ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังสต๊อกน้ำมันเป็นบวก-GIM พุ่ง