Wealth Sharing

หุ้นเวียดนาม หมดรอบ? เปิด 3 ต้นตอทุบตลาดดิ่งหนัก


22 ตุลาคม 2568

หากจะพูดตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวได้อย่างร้อนแรงจนดัชนีทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องภายในปี 2568 ตลาดหุ้นเวียดนามก็คงติดอันดับต้นๆเป็นที่แน่นอน แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดัชนีกลับมาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งวันนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัยพร้อมกับมุมมองการลงทุน

หุ้นเวียดนาม-หมดรอบ_WS-(เว็บ)_0.jpg

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า วานนี้ตลาดหุ้นเวียดนามได้ปรับตัวลดลงหนักสุดถึง 5.5% ในวันเดียว จาก 3 ต้นตอประกอบไปด้วย 1.ฟองสบู่จากมาร์จิ้นสูงผิดปกติ นักลงทุนรายย่อยใช้มาร์จิ้นจำนวนมากในช่วงตลาดขาขึ้นที่ผ่านมา ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะเปราะบางต่อข่าวลบ พอมีแรงขายทำกำไรของต่างชาติเข้ามา โดยเฉพาะในวันศุกร์หุ้นธนาคารถูกเทขายรุนแรงเป็นพิเศษ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศตลาดตื่นตระหนก และเร่งให้เกิดแรงขายเป็นวงกว้างขึ้น

2.รายงานตรวจสอบของสำนักงานผู้ตรวจการรัฐบาลเวียดนาม พบการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ผิดกฎเกณฑ์อย่างกว้างขวาง ครอบคลุม 67 บริษัท (รวมธนาคาร 5 แห่ง) ช่วงปี 2015-2023 มูลค่ารวมกว่า 9.7 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่พบ ได้แก่ ใช้เงินไม่ตรงวัตถุประสงค์ที่ประกาศไว้ เช่น เอาไปปล่อยกู้ระยะสั้นแทนโครงการลงทุน, เปิดเผยข้อมูลไม่โปร่งใส, การบริหารจัดการเงินทุนหละหลวม, เริ่มมีการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นล่าช้า (เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้) เป็นต้น

3.ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ Novaland ประกาศว่าไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้แปลงสภาพกว่า 335 ล้านดอลลาร์ ได้ตามกำหนด ยิ่งซ้ำเติมความกังวลเรื่องเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้และภาคอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ก่อนหน้าเราได้แนะนำให้ “ขายทำกำไรหุ้นเวียดนาม” เนื่องจากความเสี่ยงฟองสบู่จากการใช้มาร์จิ้นสูงผิดปกติ และราคาหุ้นได้ price in เรื่องอัพเกรตเป็นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (EM) ไปมากแล้ว ขณะที่ปัจจุบันยังคงยืนมุมมองตามเดิม คือ “รอให้ตลาด ปรับฐานลงลึกกว่านี้” เพื่อเปิดโอกาสในการทยอยกลับเข้าไปสะสมอีกครั้ง

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ให้มุมมองว่า ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดหุ้นที่เรามีมุมมองเชิงลบ(Negative) และแนะนำให้ “Underweight” มาตั้งแต่เดือนกันยายน จากเหตุผลข่าวดีที่อยู่ในราคาไปมาก เช่นการถูกเลื่อนชั้นขึ้นสู่ระดับ Secondary Emerging Market ของดัชนี FTSE  รวมไปถึงมูลค่าหุ้นที่ก่อนหน้านี้ขึ้นไปอยู่สูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง 

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น-กลาง แนะรอจังหวะให้มูลค่าหุ้นลงมาต่ำกว่าระดับปัจจุบันเสียก่อน หากคิด P/E เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังจะได้ระดับดัชนี VNINDEX ที่ 1,560 จุด อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนระยะยาว มองว่ากลยุทธ์ DCA ในตลาดหุ้นนี้ที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวอย่างเวียดนาม ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถทำได้

หุ้นเวียดนาม-หมดรอบ_0.jpg