Talk of The Town

หุ้นธนาคารสุดปัง! แจ้งงบไตรมาส 3/68 ดีเกินคาด โบรกฯ แนะไม่ไล่ราคา รอสะสมปลายปี


22 ตุลาคม 2568

กลุ่มธนาคารประกาศกำไรสุทธิส่วนใหญ่ดีกว่าคาด! แต่นักวิเคราะห์ ไม่แนะนำให้ไล่ราคาหุ้น BANK ณ เวลานี้ แนะรอจังหวะการเข้าสะสมหุ้น กลุ่มนี้ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า เพื่อรับปัจจัยกระตุ้นถัดไป คือ การประกาศจ่ายปันผลประจำปี

 หุ้นธนาคารสุดปัง!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มธนาคารปรับตัวสูงขึ้น และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ SET Index ไม่ลงแรงในช่วงนี้ ภายหลังจากการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ล่าสุด ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาดการณ์ไว้

เหตุผล หลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ออกมาดีกว่าคาดมาก ไม่ว่าจะเป็นกำไร จากการวัดมูลค่าเงินลงทุนหรือรายได้ค่าธรรมเนียม เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ภาพของธุรกิจสินเชื่อยังคงอ่อนแอ เมื่อมาประกอบกับ NIM ที่ยังคงหดตัว และค่าใช้จ่ายประจำที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีตามปัจจัยฤดูกาล ทำให้ฝ่ายวิจัย ไม่แนะนำให้ไล่ราคาหุ้น BANK ณ เวลานี้แต่อย่างใด

แต่ในเชิงพื้นฐาน ธนาคารที่แนะนำ “ซื้อ” หลังงบไตรมาส 3 ออกมาล่าสุดจะได้แก่ BBL, KBANK และ TISCO ส่วนในเชิงกลยุทธ์ แนะรอจังหวะการเข้าสะสมหุ้น กลุ่มนี้ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า เพื่อรับปัจจัยกระตุ้นถัดไป นั่น คือ การประกาศจ่ายปันผลประจำปี

สำหรับ BBL ประกาศกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 13,789 ล้านบาท ดีขึ้น 16%จากไตรมาสก่อน และ 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าคาด 27% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอ่อนตัว ตามแนวโน้มของสินเชื่อและ NIM ที่ หดตัว แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยดีขึ้นค่อนข้างมาก ทั้งจากรายได้ค่าธรรมเนียม และ กำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลงตาม NPL ที่ลดลง

ขณะที่มองไปข้างหน้า คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/68 อาจอ่อนตัว แต่ด้วยกำไรไตรมาส 3/68 ที่ ค่อนข้างสูง ทำให้ภาพรวมกำไรทั้งปี 68 ยังเติบโตได้ราว 7%จากปีก่อน  โดยในเชิงพื้นฐาน ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 185 บาท

ขณะที่ KBANK นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองเป็นบวกจากกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 4% จากไตรมาสก่อน มากกว่าที่ตลาดและฝ่ายวิจัยคาด โดยปรับขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายจากการ Rollover ไปปี 2569 ได้ที่ 195.00 บาท ขณะที่มี Dividend yield ราว 7%

ส่วน TTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มุมมองเป็นกลางทั้งจากกำไรไตรมาส 3/2568 และจากการประชุมนักวิเคราะห์ที่เป็นไปตามคาด โดยกำไรสุทธิ ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท เติบโต 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 6% จากไตรมาสก่อน ดีกว่าที่ตลาดคาด 9% และฝ่ายวิจัยคาด 10% โดยมีกำไรจาก FVTPL และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มากกว่าคาดเข้ามาช่วย แนะนำ “ถือ” และ Rollover ราคาเป้าหมายไปปี 2569 ได้ที่เดิมที่ 2.00 บาท

SCB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองเป็นบวกทั้งจากประชุมนักวิเคราะห์และกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ดีกว่าคาด โดยกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน

โดยมีกำไรจาก FVTPL เข้ามามากกว่าคาด ขณะที่มีการตั้งสำรองฯมากกว่าคาดเพราะมีการใส่ Management Overlay เพิ่มขึ้น ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” SCB แต่ปรับราคาเป้าหมายจากการ Rollover ไปปี 2569 ได้ที่ 150.00 บาท และมี Dividend yield สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ราว 9% โดยยังคงเลือก SCB เป็น Top pick ของกลุ่ม

ส่วน KTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองประเด็น ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านบาท ดีตามตลาดคาดแต่ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด 8% โดยมีกำไรจาก FVTPL และกำไรจากเงินลงทุนมากกว่าคาดมา ขณะที่มีการตั้งสำรองฯน้อยกว่าคาดจากการกลับสำรองฯ THAI

ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” KTB แต่ปรับราคาเป้าหมายจากการ Rollover ไปปี 2569 ได้ที่ 30 บาท จากเดิมที่ 27.00 บาท โดย KTB เป็นธนาคารที่มี Asset Quality ที่แข็งแกร่งจากการเน้นปล่อยสินเชื่อภาครัฐ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ และรองรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ โดยยังคงเลือก KTB เป็น Top pick ของกลุ่ม