TACC ผู้นำหุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม ผลประกอบการโตเด่น-ปันผลอย่างสม่ำเสมอ

“หุ้นปันผล” มักจะเป็นทางเลือกการลงทุนในช่วงที่ภาวะตลาดเจอปัจจัยลบต่อบรรยากาศการลงทุน แต่ก็ใช่ว่า “หุ้นปันผล” ทุกตัวจะมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทว่ามีผลกำไรในแต่ละงวดและกระแสเงินสดในมือมากน้อยเพียงใด



โดยบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ก็ถือเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการรักษาความสม่ำเสมอการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นับจากปี 2562 ถึง 2568 และมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ล่าสุดในช่วงครึ่งปีแรกปี 2568 บริษัทก็ยังคงจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.21 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลไปในวันที่ 25 สิงหาคม 68 ที่ผ่านมา และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2568

นอกจากการรักษาภาพของหุ้นปันผล ในแง่ของการเติบโตของผลประกอบการบริษัทก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยในไตรมาส 2/68 มีรายได้ 577.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.07% จากช่วงเดียวกัน และมีกำไรสุทธิ 79.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.66% จากช่วงเดียวกัน และในงวด 6 เดือนแรกปี 68 มีรายได้ 1,107.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.91% จากช่วงเดียวกัน และมีกำไรสุทธิ 152.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.20% จากช่วงเดียวกัน

ด้วยแรงสนับสนุนจากการออกสินค้าใหม่ร่วมกับ 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันเครื่องดื่มชาไทยและชาเขียวยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาช่วยผลักดันยอดขาย ไปจนถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับการเติบโตในอนาคต นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก จากการพัฒนาสินค้าและออกสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (7-Select) และ เครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café ซี่งมั่นใจว่ารายได้รวมปี 2568 จะทะลุ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 10%

มุมมองข้างต้นอาจจะเป็นมุมมองเพียงฝั่งเดียวจากผู้บริหาร ซึ่งในส่วนของบล.กรุงศรี ที่ได้ แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบที่ดีจะดําเนินต่อไป และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังอยู่ในระดับที่ดีที่10.9% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่ม