FSMART ยังได้ไปต่อ! หลัง 1 เดือนราคาหุ้นพุ่งแล้ว 43% นักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” ให้เป้า 13 บาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่ากำไรปกติของ FSMART ในปี 62 อยู่ที่ระดับ 584 ล้านบาท จากนั้นลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 302 ล้านบาทในปี 65 หลักๆ มาจากรายได้ที่ลดลง โดยเฉพาะรายได้จากบริการเติมเงินที่เคยทำได้ระดับ 1.3 พันล้านบาทในปี 62 เหลือระดับ 511 ล้านบาทในปี 2022
อย่างไรก็ดีราคาหุ้น FSMART ปรับขึ้นร้อนแรงในปี 65-66 จากความหวังของตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หรือ "ตู้เต่าบิน"ที่บริษัทฯ ถืออยู่ 26.71% รับรู้ในส่วนแบ่งกำไร หนุนให้กำไรกลับมาเติบโต โดยส่วนแบ่งกำไรจากตู้เต่าบินปี 65 ทำได้ถึง 44 ล้านบาท และทำระดับสูงสุดในปี 66 ที่ 63 ล้านบาท จากนั้นเริ่มชะลอตัวหลังกระแสนิยมเริ่มลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับฐานตามมา
อย่างไรก็ดีในปี 65 นอกจากตู้เต่าบินแล้ว FSMART ยังมีอีกธุรกิจที่เริ่มสร้างรายได้มีนัยยะคือบริการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกขององค์กรขนาดใหญ่ โดยการเชื่อมต่อระบบบริการทางการเงินของ FSMART เข้ากับ Appicaton ของพันธมิตรเพื่อให้บริการแบบไร้รอยต่อ โดยฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ในปัจจุบัน คือกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 1.0 ล้านคน
ธุรกิจปล่อยสินเชื่อลูกค้าองค์กรคือการเติบโตใหม่ที่ต้องจับตามอง
ธุรกิจสินเชื่อของ FSMART เริ่มมียอดสินเชื่อรวม (Gross Loan) ที่ระดับ 250 ล้านบาทในปี 65 จากนั้นเติบโตขึ้นเป็น 354 ล้านบาทในปี 66 และเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญเป็น 1,189 ล้านบาทในปี 67 (จากการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม อสม.)
ขณะที่ในครึ่งแรกของปี 2568 ยอดรวมของสินเชื่ออยู่ที่ 1.5 พันล้านบาทแล้ว บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่ระดับ 2.0 พันล้านบาทภายในปี 2025 และตั้งเป้ากว่า 1.0 หมื่นล้านบาทใน 3-5 ปีจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยรับของ FSMART ปรับเพิ่มขึ้นจาก 25 ล้านบาทในปี 2022 ขึ้นเป็น 38 ล้านบาทในปี 2023 จากนั้นเร่งตัวแตะระดับ 135 ล้านบาทในปี 67 ขณะที่ดอกเบี้ยรับในครึ่งแรกปี 68 ทำได้ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335% จากปีก่อน โดยปกติรายได้ดอกเบี้ยรับจะเติบโตตามขนาดของสินเชื่อภายใต้การบริหาร
ทั้งนี้คาดธุรกิจปล่อยสินเชื่อของ FSMART จะมี Asset Yield เฉลี่ยอยู่ที่ราว 18.5% ต่อปี บน NPL Ratio ที่ราว 3-5% โดยมองว่าการเพิ่มขึ้นของ NPL จะไม่น่ากังวล เพราะ FSMART หักชำระค่างวดผ่านบัญชีเงินเดือนโดยตรงและลูกค้าส่วนใหญ่มีแหล่งรายได้ประจำ
ผลบวกต่องบการเงินโดยรวมมีนัยสำคัญ รายได้ของ FSMART เติบโตจาก 2.2 พันล้านบาทในปี 2022เป็น 2.3 พันล้านบาท กำไรขันต้นของ FSMART เติบโตมีนัยสำคัญจาก 402 ล้านบาทในปี 65 เป็น 686 ล้านบาทในปี 67 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากระดับ 17.9% ในปี 65 ไปที่ระดับ 29.6% ในปี 67
ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตจากระดับ 302 ล้านบาทในปี 65 ไปที่ระดับ 430 ล้านบาทในปี 67 บนอัตราการทำกำไรสุทธิที่เพิ่มจาก 13.5% เป็น 18.6% สาเหตุที่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อเร่งอัตรากำไรของกลุ่ม เนื่องจากเป็นการพัฒนา Application เพิ่มเติมนฐาน ธุรกิจเดิมและใช้ช่องทางตู้บุญเติมที่มีอยู่แล้วเป็นจุดรับชำระเงิน ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนทุนส่วนเพิ่มจำกัด
นอกจากต้นทุน NPL และต้นทุนการจัดหาเงินทุน เมื่อบวกกับค่าเสื่อมราคาของกลุ่มที่ลดลงจาก 480 ล้านบาทในปี 2022 เหลือ 308 ล้านบาทในปี 67 เพราะตู้บุญเติมส่วนใหญ่ตัดจำหน่ายค่าเสื่อมเกือบหมดแล้ว แต่ยังใช้งานต่อได้ ทำให้กำไรได้แรงส่งมากยิ่งขึ้น ในปี 68-69 คาดค่าเสื่อมราคายัง ลดลงอีกปีละ +/-80-100 ล้านบาท หนุนให้กำไรเติบโตไม่ยาก
คาดกำไรปกติปี 2025-2026 ที่ 624 ล้านบาท และ 754 ล้านบาทตามลำดับ
โดยกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 ของ FSMART อยู่ที่ 308 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 3/68 จะเป็น Low Season และเป็นช่วงรอยต่อรัฐบาลที่กดดันกำลังซื้อ แต่เราคาดว่าการฟื้นตัวจะเด่นในไตรมาส 4/68 หนุนจากยอดปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 4/8 ที่จะเร่งตัวเด่นทำให้กำไรในครึ่งหลังปี 68 มีโอกาสดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้คาดกำไรปกติปี 68 ที่ 624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน และกำไรปกติปี 69 ที่ 754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% หรือคิดเป็น EPS25 ที่ 0.83 บาทต่อหุ้น และ EPS26 ที่ 1.00 ต่อหุ้น ประมาณการของเราอิงสมมติฐานสำคัญได้แก่ 1) ธุรกิจเดิมทรงตัวได้ ธุรกิจเติมเงินที่ชะลอตัวลงถูกชดเชยด้วยการเพิ่มบริการใหม่ และ 2) ธุรกิจปล่อยสินเชื่อทำยอดสินเชื่อรวมได้ที่ระดับ 2.0 พันล้านบาทในปี 2025 และ 3.0 พันล้านบาทในปี 2026 Asset Yield อยู่ที่ 18.5% Funding Cost ที่ 3.5% และคุม NPL ได้ที่ระดับ 4-5%
ประเมินมูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2026 ที่ 13.00 บาทต่อหุ้น
การประเมินมูลค่าเบื้องต้น ในกรณีที่ธุรกิจสินเชื่อเติบโตได้ตามคาดหวัง ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ FSMART ณ สิ้นปี 2026 ที่ 13.00 บาทต่อหุ้น อิง EPS26 ที่ระดับ 1.00 บาทต่อหุ้น และกรอบ PER เหมาะสมที่ระดับ 13x ซึ่งเป็นระดับที่เราเชื่อว่าเหมาะสมที่จะสะท้อนการเติบโตระยะยาวของบริษัท และใกล้เสียงกับ SV) ซึ่งเป็นคู่แข่งในอุดสาทกรรมเดียวกันที่ซื้อขายบน PER 12.26
Premium ในการประเมินมูลค่าของเราอนุรักษ์นิยม เนื่องจาก 1) FSMART มีการเติบโตที่ดีกว่า SVTและ 2) ประมาณการของเราอิงยอดสินเชื่อรวมที่ 3.0 พันล้านบาท เทียบกับเป้าบริษัทฯ ระยะยาวที่ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3-5 ปีจากนี้ ทั้งนี้เริ่มต้นที่คำแนะนำ "ซื้อ ราคาหุ้นปัจจุบันชื่อขายบน PER26 ที่เพียง 8.8 เท่า ต่ำมากเทียบกับโอกาสเติบโตใหญ่ในธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เชิงกลยุทธ์ ประเมินว่าหุ้นที่ต่ำกว่า PER10x หรือต่ำกว่า +/-10.00 บาทต่อหุ้นเป็นระดับที่น่าสนใจทยอยสะสมเพื่อลุ้นการเติบโตของธุรกิจใหม่
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
โบรกฯชี้ “ฟิทช์” หั่นมุมมองไทย คาดกระทบ SET Index จำกัด หลังรัฐบาลกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ
_0.jpg)
FSMART ยังได้ไปต่อ! หลัง 1 เดือนราคาหุ้นพุ่งแล้ว 43% นักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” ให้เป้า 13 บาท
_0.jpg)
เริ่มแล้ว! นายกฯ “อนุทิน” นำทีม รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ถก “FETCO” เปิด 5 ข้อเสนอหนุนตลาดทุนไทย
%20copy_0.jpg)
ตลท. สั่งเบรกเทรดหุ้น SKIN ชั่วคราว เหตุปริมาณเสนอซื้อ-ขายมากกว่า 15% เตรียมกลับมาเปิดเทรดอีกครั้ง 11.16 น.
%20copy_0.jpg)