บล.เมย์แบงก์ ยกระดับทีมที่ปรึกษา-นวัตกรรมดิจิทัล ดึงดูดลูกค้าสร้างประสบการณ์การลงทุนครบวงจร
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ ยกระดับทีมที่ปรึกษาและนวัตกรรมดิจิทัล สร้างประสบการณ์การลงทุนครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เตรียมบุกตลาดธุรกิจ Private fundสิ้นปีนี้ มองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีแตะที่ 1,290 จุด ปี69 เพิ่มเป็น 1,370 จุด
นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST ยอมรับว่า การลงทุนปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ดังนั้นกลยุทธ์หลักของบริษัทจึงเน้นเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจรีเทล ด้วยการลงทุนทั้งในคน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับบทบาทของเมย์แบงก์จากโบรกเกอร์ที่เน้นการทำธุรกรรม ไปสู่การเป็นพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้า โดยเรายังคงรักษาจุดยืนการเป็น boutique financial advisory ที่เน้น high touch ให้คำปรึกษาเชิงลึกและตอบโจทย์ลูกค้าในแบบเฉพาะบุคคล
โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแตะ 1,000 ล้านบาท โดยมีฐานรายได้จากธุรกิจหลัก ได้แก่ โบรกเกอร์และวาณิชธนกิจ (IB) ผ่านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และปีนี้ MST เตรียมเปิดตัว กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) สำหรับลูกค้ากลุ่มไฮเน็ตเวิร์ธ และการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในอนาคต รวมถึงการให้บริการ ตลาดรองตราสารหนี้ ในไตรมาส 4/68 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้นักลงทุน พร้อมเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ลงทุนใหม่อีก 5–6 รายการ ภายในปีหน้า เพื่อขยายโอกาสการลงทุนที่ซับซ้อนและสร้างผลตอบแทนที่ดี
“เป้าหมายของ MST คือการสร้างองค์กรที่ยืนหยัดได้ทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง ด้วยการสร้างรายได้ที่สมดุลจากค่าคอมมิชชั่น ผลงาน IB และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมดึงดูดบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ทีม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน” นายอารภัฏ กล่าว
ด้านนางสาวเนธิตา กระบวนรัตน์ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายบริหารการลงทุน กล่าวว่า MST ประเมินดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,290 จุด และปี 69 แตะที่ระดับ 1,370 จุด ภายใต้ EPS เติบโต 6% และค่า P/E 14.5 เท่า โดยทีมที่ปรึกษาการลงทุน คือกลไกสำคัญในการส่งออกประสบการณ์การลงทุนที่แตกต่าง บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ทั้งการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เชิงลึกและพัฒนาทักษะของทีมงานให้สามารถให้คำแนะนำได้อย่างครบถ้วนและรอบด้าน เราต้องการให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่ามีที่ปรึกษาที่เข้าใจเป้าหมายทางการเงินของพวกเขาและสามารถช่วยตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เรากำลังยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัลของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์และใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ทันสมัยในการวางแผนการลงทุน เมื่อผสานความสะดวกสบายของดิจิทัลเข้ากับความเชี่ยวชาญของทีมที่ปรึกษา จะทำให้ เมย์แบงก์สามารถมอบประสบการณ์ที่ครอบคลุมทั้งความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความเป็นส่วนตัว โดยเป้าหมายของเราคือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า และยกระดับบทบาทของ เมย์แบงก์ให้เป็นพาร์ทเนอร์อันดับแรกที่นักลงทุนไว้วางใจเมื่อต้องการวางแผนการเงิน ทั้งในวันนี้และในอนาคต”นางสาวเนธิตา กล่าว