Talk of The Town

สะเทือน! 4 หุ้นธนาคาร หากดอกเบี้ยลดทุกๆ 0.25% จะฉุดกำไร โบรกฯ คาด KBANK เจ็บตัวหนักสุด


23 กันยายน 2568

โบรกฯ ชี้นโยบายอัตราดอกเบี้ยปรับลงทุก 0.25% จะกระทบกำไรปี 2569 ของ 4 ธนาคารยักษ์ใหญ่ KBANK โดนหนักสุดลดลงถึง 5.67% พร้อมคาดกำไรธนาคารวูบ แต่สะเทือนกำไร SET ไม่เยอะ ยังมีอุตสาหกรรมอื่นชดเชยได้   

สะเทือน! 4 หุ้นธนาคาร_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดการณ์ว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้ง (คาดปรับลดดอกเบี้ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. 2568) และปีหน้า 2 ครั้ง (คาดปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 1/69 และ 2/69 ไตรมาสละ 1 ครั้ง) รวม 0.75% 

โดยมีเหตุผลหลัก ประกอบไปด้วย เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังปี 2568 ยังอ่อนแรง การบริโภคและความเชื่อมั่นหดตัว ภาคการผลิตหลักชะลอ โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ รวมไปถึงการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น รายได้และจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังลดลง โดยตลาดจีนฟื้นตัวช้า

นอกจากนี้ ยังมีภาวะการเงินตึงตัวจากเงินบาทแข็งค่าและสินเชื่อหดตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะ SMEs ในโรงแรมและร้านอาหาร ส่งผลต่อความเสี่ยงหนี้เสีย  ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่ากรอบและไร้แรงกดดันด้านอุปสงค์ ทําให้มีพื้นที่เชิงนโยบายผ่อนคลายเพิ่มขึ้น โดยที่มติเอกฉันท์ของกนง. ครั้งล่าสุดยังตอกย้ำโอกาสลดดอกเบี้ยต่อไป

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ Sensitivity เพื่อศึกษาผลกระทบของการปรับลดดอกเบี้ยที่มีต่อกําไรปี 2569 ของแต่ละอุตสาหกรรม การลดดอกเบี้ยทุก 0.25% จะส่งผลลบต่อกําไรของกลุ่มธนาคารมากที่สุด ลดลง 3.6% โดยธนาคารขนาดใหญ่ เช่น KBANK ลดลง 5.67% KTB ลดลง 5.33% BBL ลดลง 5% SCB ลดลง 4% เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อดอกเบี้ยลอยตัวและสัดส่วน CASA สูง ทําให้ NIM หดตัว ยกเว้น ธนาคารขนาดกลางอย่าง TISCO และ KKP ซึ่งกําไรจะดีขึ้น เพราะมีการให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยคงที่ในสัดส่วนสูง) รองมา คือ กลุ่มประกัน ซึ่งจะมีกําไรลดลง 0.5% เพราะมีผลตอบแทนจากลงทุนลดลง

อย่างไรก็ดี กําไรของหลายอุตสาหกรรมจะปรับตัวดีขึ้น หากมีการปรับลดดอกเบี้ยเพราะมีภาระหนี้สูง นําโดย กลุ่มขนส่งทางบก เพิ่มขึ้น 3.3% ปิโตรเคมี เพิ่มขึ้น 2.2% กลุ่มท่องเที่ยว เพิ่มขึ้น 1.3% กลุ่มบรรจุภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 1.2%, กลุ่มไฟแนนซ์ เพิ่มขึ้น 1.2% เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้การปรับลดดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อกําไรของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ แต่ยังถูกชดเชยได้ด้วยกําไรที่ดีขึ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ทําให้กําไรรวมของ SET ไม่ได้ลดลงจากประมาณการเดิมอย่างมีนัย สะท้อนได้จากการวิเคราะห์ Sensitivity โดยหากมีการปรับลดดอกเบี้ยทุก 0.25% จะส่งผลให้กําไรรวมของ SET ลดลงจากเดิมเพียง 0.09%