รู้หรือไม่? มหาวิทยาลัยนอกจากจะเป็นองค์กรที่ให้ความรู้ และเป็นใบเบิกทางสู่หน้าที่การงานแล้ว ยังมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อลงทุนในหุ้นด้วย แล้วมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เข้ามาลงทุน และมีมูลค่าสูงแค่ไหน
โดยจากการสำรวจข้อมูลผ่าน setsmart พบว่า มหาวิทยาลัย (ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัย) มีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภท กองทุนฯ คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 1.8 พันล้านบาท อ้างอิงราคาหุ้น ณ วันที่ 19 ก.ย.68 และข้อมูลการถือหุ้นสิ้นสุด วันที่ 19 ก.ย.68
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมหิดล มีมูลค่าการลงทุนมากสุดกว่า 1.3 พันล้านบาท ประกอบด้วย AIMIRT จำนวน 9,203,400 หุ้น มูลค่า 95 ล้านบาท, ALLY จำนวน 9,900,000 หุ้น มูลค่า 46 ล้านบาท, AXTRART จำนวน 15,698,565 หุ้น มูลค่า 191 ล้านบาท
BAREIT จำนวน 12,227,600 หุ้น มูลค่า 121 ล้านบาท, BOFFICE จำนวน 6,239,170 หุ้น มูลค่า 31 ล้านบาท, CPTREIT จำนวน 15,514,800 หุ้น มูลค่า 77 ล้านบาท FTREIT จำนวน 18,766,550 หุ้น มูลค่า 189 ล้านบาท
FUTURERT จำนวน 4,400,000 หุ้น มูลค่า 41 ล้านบาท, QHBREIT จำนวน 8,302,300 หุ้น มูลค่า 31 ล้านบาท, SPRIME จำนวน 10,582,600 หุ้น มูลค่า 37 ล้านบาท, TDEX จำนวน 2,973,800 หุ้น มูลค่า 24 ล้านบาท, TFFIF จำนวน 46,810,000 หุ้น มูลค่า 285 ล้านบาท
TPRIME จำนวน 6,013,400 หุ้น มูลค่า 42 ล้านบาท, WHAIR จำนวน 10,708,123 หุ้น มูลค่า 65 ล้านบาท และ LHSC จำนวน 4,000,500 หุ้น มูลค่า 48 ล้านบาท
ตามด้วย มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีมูลค่ากว่า 309 ล้านบาท ประกอบด้วย BAREIT จำนวน 10,000,000 หุ้น มูลค่า 99 ล้านบาท, INETREIT จำนวน 16,667,000 หุ้น มูลค่า 180 ล้านบาท, MII จำนวน1,000,000 หุ้น มูลค่า 4 ล้านบาท, M-PAT จำนวน 716,500 หุ้น มูลค่า 1.7 ล้านบาท, TPRIME จำนวน 3,380,000 หุ้น มูลค่า 23 ล้านบาท
ต่อด้วย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มูลค่ากว่า 152 ล้านบาท ประกอบด้วย M-PAT จำนวน 10 ล้านหุ้น มูลค่า 23 ล้านบาท WHABT จำนวน 5 ล้านหุ้น มูลค่า 29 ล้านบาท และ HPF จำนวน 20 ล้านหุ้น มูลค่า 99 ล้านบาท
รวมถึง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ EGATIF จำนวน 11,790,000 หุ้น มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท และ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ FUTURERT จำนวน 2,797,000 หุ้น มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท