TISCO ไตรมาส 3/68 ไม่ปัง! คาดกำไรเหลือ 1.67 พันลบ. ลดลง 2.6% แนะ “ถือ” รับปันผล ลุ้นปีนี้จ่าย 7.75 บาท

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 คาดจะมีกำไรสุทธิ 1.67 พันล้านบาท ลดลง 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.5% จากไตรมาสก่อน โดยการปรับลดลงของกำไรจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก 1.รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจาก NIM อ่อนตัวต่อเนื่อง 2.สำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มความแข็งแกร่งของงบดุลในภาวะทีเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว

อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกำไรจากพอร์ตลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักทรัพย์ล้อกับภาวะตลาดทุนที่ฟื้นตัว

ขณะที่คาดสินเชื่อในไตรมาส 3/2568 จะลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน หลังจากสินเชื่อสุทธิเดือน ก.ค.-ส.ค. ลดลงราว 0.3% จากเดือน มิ.ย. ส่วนใหญ่จากการปรับลดลงของสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ และสินเชื่อ Floorplan ขณะที่สินเชื่อรายย่อยปรับขึ้นเล็กน้อยจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ใหม่

ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) แนวโน้มลดลงมาที่ 4.8% ลดลง 0.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2% จากไตรมาสก่อน เพราะแม้ต้นทุนการเงินจะทยอยปรับลดลง แต่อัตราผลตอบแทนสินเชื่อ (loan yield) ยังคงถูกกดดันจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ ล้อกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง

ส่วนหนี้เสียทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยคาดว่า NPL ratio จะทรงตัวจากไตรมาสก่อน ที่ 2.4% และ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 160%

สำหรับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารอ่อนแอ แม้ว่าการควบคุมต้นทุนการเงินจะส่งผลให้ NIM ได้รับผลกระทบจำกัดหากเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2568 จะปรับลดลง 4% จากปีก่อน

อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะกลับมาขยายตัว 3% ในปี 2569 เพราะ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากต้นทุนการเงินที่ลดลง และการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานทำให้ Cost to income ratio ปรับลดลงเหลือ 44.5% ในปี 2569 จาก 45.5% ในปี 2568

ดังนั้นด้วยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่งสูงราว 19% คาดว่า TISCO สามารถจ่ายเงินปันผลที่ 7.75 บาท/หุ้นในปี 2568-69 ทำให้คาด Dividend yield สูงราว 7.8% เป็นปัจจัยหนุนการลงทุน

โดยคงคำแนะนำ "ถือ" เพื่อรับเงินปันผล แม้คาดผลการดำเนินงานหลักยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ผลตอบแทนเงินปันผลสูง และงบดุลที่แข็งแกร่งยังเป็นจุดเด่นในการลงทุน เราปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 104 บาท (เดิม 102 บาท) 

เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าไตรมาส 3/2568 จะมีกำไร 1.7 พันล้านบาท ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงจากสินเชื่อที่หดตัวและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และมีการตั้งสำรองลดลง แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4%จากไตรมาสก่อน จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักทรัพย์ที่ดีขึ้นและมีการตั้งสำรองลดลงจากสินเชื่อที่หดตัว

ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำ ไรปี 68 ของTISCO ไว้ที่ 6.7 พันล้านบาท ลดลง 2.7% จากปีก่อน จากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น โดยปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 69 ที่ 104 บาท เหลือส่วนต่างไม่มาก แต่ปันผลยังน่าสนใจโดยปี 68 คาดว่าจะจ่าย 7.50 บาท/หุ้น และปี 69 คาดว่าจะจ่าย 7.30บาท/หุ้น ยังแนะนำ “ทยอยซื้อ”