หากพูดถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในรัฐบาลของอนุทิน ที่ได้รับความสนใจในปัจจุบันก็คงไม่พ้นเรื่อง โครงการคนละครึ่ง ที่จะนำกลับมาใช้อีกครั้ง เนื่องด้วยเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อที่ค่อนข้างเห็นผล แต่ในฝั่งของผู้ประกอบการจะเห็นผลมากน้อยเพียงใด เราจะพาไปดูสถิติในอดีตกัน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของกลุ่มค้าปลีกชะลอตัวลงอย่างมากในช่วง 1-2 ไตรมาสที่ผ่านมา จากหลากหลายปัจจัยกดดัน แต่จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ SSSG จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มทยอยออกมาจำนวนมาก ในช่วงไตรมาส 4/68 และแรงหนุนจากเม็ดเงินที่จะสะพัดช่วงก่อนการเลือกตั้งในระยะถัดไป
โดยหากย้อนไปดู SSSG ที่เกิดขึ้นในช่วงมาตรการคนละครึ่งจะพบว่า SSSG 2 เฟสหลังเป็นบวก เนื่องจากไม่มีผลกระทบของการแพร่ระบาด COVID-19 เหมือน 3 เฟสแรก และจะสังเกตได้ว่ากลุ่มค้าปลีกอาหาร (BJC, CPALL, CPAXT) มี SSSG ที่เติบโตจากช่วงเดียวกันในช่วงเวลานั้นๆ
ขณะที่ SSSG ของกลุ่มค้าปลีกสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านมีทั้งบวกและลบ บริษัทที่มี SSSG โดดเด่นที่สุดในกลุ่มในช่วงเวลานั้นๆคือ CPALL และ CPAXT ดังนั้น มองว่าหากรัฐบาลทำนโยบายคนละครึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะ CPALL และ CPAXT เนื่องจากมีสาขาจำนวนมากและขายสินค้าให้ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมคาดเม็ดเงินสะพัดช่วงการเลือกตั้งหนุน SSSG ในระยะถัดไป
หากย้อนไปดูการบริโภคช่วงไตรมาสที่มีการเลือกตั้ง จะพบว่าเกือบทุกครั้งที่มีการเลือกตัวการบริโภคจะขยายตัว 5%-10% จากช่วงเดียวกันในช่วงไตรมาสที่มีการเลือกตั้ง และเติบโตในหมวดอาหารและสินค้าที่ไม่มีแอลกอฮอลเป็นหลัก ขณะที่สินค้าในหมวดซ่อมแซมและตกแต่งบ้านมีการชะลอตัวทั้งช่วงเดียวกันและไตรมาสก่อนในครั้งล่าสุด จึงมองว่ากลุ่มค้าปลีกอาหารจะยังคงแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน
ทั้งนี้ คาดกำไรบริษัทในกลุ่มค้าปลีกช่วงไตรมาส 3/68 ชะลอตัวจากช่วงเดียวกัน ยกเว้น CPALL และ CPAXT ที่คาดว่ายังเติบโตได้จากช่วงเดียวกัน ขณะที่ภาพรวมคาดกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นช่วงไตรมาส 4/68 โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของ SSSG ในกลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น จากฐานต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4/68 จะหนุนการเติบโตของกลุ่มค้าปลีก คำแนะนำ Overweight กลุ่มค้าปลีก โดยมองว่า SSSG ของกลุ่มค้าปลีกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเลือก CPALL และ CPAXT เป็นหุ้นเด่น