Talk of The Town

2 บิ๊กรับเหมา อนาคตจะเป็นอย่างไร เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล!


12 กันยายน 2568

ต้องยอมรับว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ มีหุ้นอีกหนึ่งกลุ่มที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด คงหนีไม่พ้น หุ้นรับเหมาก่อสร้าง เพราะมักเคลื่อนไหวตามทิศทางนโยบายภาครัฐเป็นหลัก แต่รอบนี้หุ้นกลุ่มดังกล่าวจะได้รับผลบวก หรือถูกกดดัน หรือไม่ หลังรัฐบาลชุดนี้จะมีอายุเพียง 4 เดือน ก่อนที่จะต้องยุบสภาและก้าวสู่สนามเลือกตั้งครั้งใหม่

2 บิ๊กรับเหมา_S2T (เว็บ) copy.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า การลงนามโครงการภาครัฐใหม่ ๆ มีโอกาสจะถูกเลื่อนไป โดยนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทาง CK ยังไม่ได้ลงนามในสัญญางานใหม่ใดๆ ทำให้ backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/68 ลดลงเหลือ 1.92 แสนล้านบาท และคาดว่าจะลดลงเหลือ 1.70 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2568 หากไม่มีการเซ็นสัญญาใหม่เข้ามา 

ตอนแรก CK ตั้งเป้าจะได้งานภาครัฐหลายโครงการ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง 2 โครงการมูลค่ารวม 1.50 หมื่นล้านบาท, โครงการทางพิเศษ M5 มูลค่า 2.50 หมื่นล้านบาท และทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.50 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้ แต่ด้วยการจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องใช้เวลา ดังนั้น การประมูลโครงการใหม่ ๆ ของภาครัฐจึงไม่น่าจะเริ่มได้ในระยะใกล้นี้ 

ส่วน STECON ได้ลงนามในสัญญางานใหม่ ๆ ไปแล้วมูลค่ารวม 2.60 หมื่นล้านบาท (52% ของเป้าทั้งปีที่ 5 หมื่นล้านบาท) ในครึ่งปีแรกปี  68 ส่วนใหญ่มาจากโครงการภาคเอกชนและทางด่วน M7 นอกจากนั้น STECON ยังคงมีโอกาสได้งานจากภาคเอกชนอีกหลายโครงการ เช่น พลังงานหมุนเวียน, ดาต้าเซ็นเตอร์, อาคารพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และอาจดันให้มูลค่าสัญญางานใหม่สูงถึง 5 หมื่นล้านบาทได้ 

แต่หากไม่รวมโครงการศูนย์การบินอู่ตะเภาของ UTA (บริษัทร่วมทุน) มูลค่า 2.70 หมื่นล้านบาท แล้ว backlog ของ STECON อาจลดลงเหลือราวหนึ่งแสนล้านบาท จากปัจจุบันที่ 1.27 แสนล้านบาท ซึ่งก็เพียงพอเพื่อรองรับรายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

การได้รัฐบาลใหม่ด้วยความรวดเร็วเป็นปัจจัยบวกต่อภาพในระยะสั้น แม้โครงการรัฐอาจมีแววเลื่อนไปปีหน้า แต่กำไรรวมน่าจะดีต่อเนื่องจาก backlog แข็งแกร่ง ดังนั้น ปรับ PE ที่ใช้ในการคำนวณเป้าราคาขึ้น โดยเป้าราคาใหม่ของ CK อยู่ที่ 20.50 บาท บน PE ที่ 18 เท่า ยังแนะนำ ซื้อ CK และแนะนำ ถือ STECON ที่เป้าราคาใหม่อยู่ที่ 8 บาท ให้น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” มองว่าหุ้นนกลุ่มรับเหมา ฯ อาจเผชิญความผันผวนในระยะสั้นจากข่าวรายวัน

เปิดคาดการณ์งบปี 68

กำไรของ CK ปีนี้น่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 3/68 อาจเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ผลักดันจาก 1.เงินปันผลรับสูงราว 232 ล้านบาท จาก TTW 2. กำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการเขื่อนหลวงพระบาง มูลค่าราว 700-800 ล้านบาท (ก่อนภาษี) และ 3. ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM และ CKP แข็งแกร่งเพราะเป็นช่วง high season ของธุรกิจ โดยกำไรไตรมาส3/68 ของ CKP น่าจะดีเป็นประวัติกาลจากฤดูฝนซึ่งมาเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนบนเงินกู้ USD และดอกเบี้ที่ยจ่ายมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ประเมินกำไร CK ปี 2568 จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท เติบโต 63% จากปีก่อน 

ส่วน STECON ปัจจัยบวกส่วนใหญ่ได้รับรู้ไปแล้วในครึ่งปีแรกปี 68 โดยกำไรครึ่งปีแรกน่าประทับใจนอกจากธุรกิจหลักแล้ว ยังมาจากเงินปันผลรับของ GULF ที่ 222 ล้านบาท, ค่าเคลมประกันโครงการป้องกันน้ำท่วมหนองบอน 400 ล้านบาท และไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู/สีเหลืองที่เคยขาดทุนกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทต่อไตรมาส 

มองไปในครึ่งหลังปี 2568 คาดกำไรจะมาจากธุรกิจหลักเป็นหลักและกำไรก็น่าจะลดลงมากจากครึ่งปีแรก ด้วย เพราะ STECON อยู่ในช่วงการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ อย่าง ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงานสะอาด, การบริหารจัดการน้ำ, ธุรกิจโลจิสติกส์ ฯลฯ ซึ่งน่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษบางส่วนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ 

ดังนั้น ประเมินกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 1.2 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ ขณะที่ คาดกำไรหลักที่ 846 ล้านบาท และในปี 2569 คาด 975 ล้านบาท เติบโต 15% 

2 บิ๊กรับเหมา_S2T (เพจ) copy ใส่ logo เพิ่ม.jpg