Talk of The Town
“โนมูระ”คาดหุ้นไทย Sideways/Up ความเสี่ยงแบงก์ต่างประเทศเริ่มผ่อนคลาย
22 มีนาคม 2566
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 มี.ค.) ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด “Sideways/Up” หนุนจากภาพความเสี่ยงสถาบันการเงินต่างประเทศที่ผ่อนคลายขึ้น จากการทยอยแก้ไขสถานการณ์ธนาคารเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงผลกระทบเศรษฐกิจโลก หนุนราคาโภคภัณฑ์ ขณะที่กลุ่มธนคารที่ไม่ประสบปัญหาฟื้นตัวเป็นลำดับ

ขณะที่การประชุม FOMC วันนี้ หากการปรับเพิ่มดอกเบี้ยไม่เกิน 25 bps จะสะท้อนภาพวงจรดอกเบี้ยปลายทางจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงระยะกลาง
บวกกับหุ้นอิงภายในที่ได้กระแสเลือกตั้ง (สื่อสาร, ค้าปลีก, ธนาคาร) ที่จะได้ผลบวกคาดการณ์เม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ไว้เดิมเท่าตัว และหนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตเด่นขึ้นอีก จากแรงบวกคู่ไปกับภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น บวกกับ ปัจจุบัน SET มี Valuation มีค่า PER2023 เหลือเพียง 15.4 เท่า (เทียบค่าเฉลี่ย 17.3 เท่า) จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1800 จุด ทั้งนี้ อิง ERP เฉลี่ย 3.06% โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ
1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AMATA, ERW, CENTEL, SNNP, WHA, DOHOME, MC, SISB, PRM, PLANB, SCGP)
2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC, AMATA, SAPPE, ICHI, BBL, KBANK, SCB)
4) Election Play (PR9, PLANB, NWR, ITD, ADVANC, INTUCH)
5) Summer Play (OSP, ICHI, SAPPE, GLOBAL, STEC, CRC, CENTEL)
6) หุ้นกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK)
7) หุ้นกลุ่ม Anti-Commodities (GULF, GPSC, BGRIM)
KCS Best Picks: AOT, SCB, SCGP

ขณะที่การประชุม FOMC วันนี้ หากการปรับเพิ่มดอกเบี้ยไม่เกิน 25 bps จะสะท้อนภาพวงจรดอกเบี้ยปลายทางจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงระยะกลาง
บวกกับหุ้นอิงภายในที่ได้กระแสเลือกตั้ง (สื่อสาร, ค้าปลีก, ธนาคาร) ที่จะได้ผลบวกคาดการณ์เม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ไว้เดิมเท่าตัว และหนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตเด่นขึ้นอีก จากแรงบวกคู่ไปกับภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น บวกกับ ปัจจุบัน SET มี Valuation มีค่า PER2023 เหลือเพียง 15.4 เท่า (เทียบค่าเฉลี่ย 17.3 เท่า) จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1800 จุด ทั้งนี้ อิง ERP เฉลี่ย 3.06% โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ
1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AMATA, ERW, CENTEL, SNNP, WHA, DOHOME, MC, SISB, PRM, PLANB, SCGP)
2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC, AMATA, SAPPE, ICHI, BBL, KBANK, SCB)
4) Election Play (PR9, PLANB, NWR, ITD, ADVANC, INTUCH)
5) Summer Play (OSP, ICHI, SAPPE, GLOBAL, STEC, CRC, CENTEL)
6) หุ้นกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK)
7) หุ้นกลุ่ม Anti-Commodities (GULF, GPSC, BGRIM)
KCS Best Picks: AOT, SCB, SCGP
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
GULF เตรียมงบลงทุน 4.2 หมื่นลบ. ลุยผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 746 MW ขายไฟให้ กฟผ. 25 ปี คาดเริ่ม COD ปี 69
%20copy_0.jpg)
SCC ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว! โบรกฯ อัพเกรดเป็น “ซื้อ” เพิ่มเป้า 200 บาท ชี้ Q3 เป็นจังหวะสะสม เข้าสู่รอบฟื้นตัว
%20copy_0.jpg)
CHAYO ดิ่ง 5 วันติดกว่า 16% ผวา! ข่าวลือขยายเวลาชำระหุ้นกู้ ฉุดความเชื่อมั่น โบรกฯ มองเสี่ยง แนะเลี่ยงลงทุน

SCGD มั่นใจฐานการผลิตเวียดนาม หนุนเติบโตระยะยาว ลดต้นทุนในไทย รับมือความผันผวนเศรษฐกิจ
.jpg)