สรุปปันผล “หุ้นธนาคาร” KBANK- KKP จ่ายมากกว่าคาด โบรกฯ ชู KTB-SCB เด่นสุด

หุ้นธนาคารประกาศปันผลกลางปี 2568 ออกมาแล้ว นำโดย SCB ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท โดยกำหนดให้วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ วันที่ 2 ก.ย. 2568 และจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นวันที่ 19 ก.ย. 2568

ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 อัตราการจ่ายปันผลที่ 2 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. 2568 และจ่ายปันผลวันที่ 26 ก.ย. 2568

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท โดยขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. 2568 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 ก.ย. 2568

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ที่ 0.40 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. 2568 และจ่ายปันผลวันที่ 25 ก.ย. 2568

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 2 บาท ขึ้น XD วันที่ 10 ก.ย. 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ก.ย. 2568

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่าการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ของ SCB คิดเป็น dividend yield 1.5% เท่ากับฝ่ายวิจัยคาด

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร จากการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรก 68 ได้ดี โดยเฉพาะ KKP, KBANK ที่จ่ายมากกว่าคาด โดยกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่เริ่มประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกแล้ว ยกเว้น TTB ที่ยังไม่ประกาศ ขณะที่ KTB จ่ายปันผลเป็นรายปี ไม่มีงวดครึ่งปีแรก

KKP คิดเป็น dividend yield ที่ระดับ 2.6% และคิดเป็น Dividend payout ที่ 51% มากกว่าครึ่งปีแรก 67 ที่ 46% (Dividend payout ช่วง 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ราว 36-92%) ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะจ่ายที่ราว 4.00 บาทต่อหุ้น (เท่ากับปี 67) คิดเป็น dividend yield สูงราว 7.0% 

ด้านการซื้อหุ้นคืนในวงเงินที่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 16 ล้านหุ้น ซึ่ง imply ราคาที่จะซื้อหุ้นคืนได้ถึง 62.50 บาท เทียบกับราคาปิดช่วงเที่ยงวันนี้หลังจากประกาศข่าวที่ 57.50 บาท (upside 9%) ซึ่งจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นได้ โดยยังคงคําแนะนํา “ถือ” KKP ราคาเป้าหมายที่ 55.00 บาท 

KBANK การจ่ายปันผลดังกล่าว มากกว่าฝ่ายวิจัยและตลาดคาดที่ 1.50 บาทต่อหุ้น และเมื่อเทียบครึ่งแรกปี 67 ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield ที่ระดับ 1.2% และคิดเป็น Dividend payout ที่ 18% (มากกว่าครึ่งแรกปี 67 ที่ 13%) 

ขณะที่ปีนี้ คาดว่าจะจ่ายที่ 10.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield สูงราว 6.0% โดยยังคงคําแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 170  บาท 

โดยเลือก KTB, SCB เป็น Top pick ให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.65 เท่าPBV และระดับ Dividend yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยยังคงเลือก KTB (แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 27 บาท), SCB (แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 145 บาท) เป็น Top pick