กรุงศรีคอนซูมเมอร์ รับผลงานปี68มีความท้าทาย ภาพรวมธุรกิจโตน้อยสุดรอบ12ปี เน้นผ่อนชำระ

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ รับปี 68 ธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล มีปัจจัยท้าทายสูง ยอดสินเชื่อโตน้อยสุด 0.8% ในรอบ 12 ปี  ลูกค้าทุกกลุ่มลดการใช้จ่าย-กู้สินเชื่อน้อยลง เน้นผ่อนชำระมากขึ้น

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย ระบุภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2568 ค่อนข้างท้าทาย นับเป็นการเติบโตน้อยที่สุดในรอบ 12 ปี ทั้งในด้านยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร และจำนวนบัตรใหม่  สะท้อนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 1.12 ล้านล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท หรือ ขยายตัวเพียง 0.8%

ขณะที่จำนวนบัตรอยู่ที่ 26.23 ล้านใบ จาก 26.39 ล้านใบ หรือลดลง 0.6% และยอดสินเชื่อคงค้างบัตรเครดิตอยู่ที่ 4.58 แสนล้านบาท ลดลงจาก 4.7 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต -2.5% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ เดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 2.7% ค่อนข้างทางตัว  เนื่องจากธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ และผู้กู้ก็มีความระมัดระวังในการกู้ยืมมากขึ้น ทำให้แนวโน้มหนี้เสียทรงตัว

ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในภาพรวมนับว่ายังเติบโตดีกว่าตลาดทั้งในแง่ของจำนวนบัตรและยอดใช้จ่ายผ่านบัตร  โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท และยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 273,700 บัญชี ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.2% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.3% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม

สำหรับเป้าหมายในปี 2568 คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท 

ผ่านการดำเนินกลยุทธ์  4 แกน ได้แก่ 1.ใช้ข้อมูลในการทำธุรกิจ 2.ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ 3.ปรับจุดขายผลิตภัณฑ์ และ 4.ทางเลือกในการชำระ โดยกรุงศรีจะมีกำไรมาจากการลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการปรับผลิตภัณฑ์ และทำโปรโมชั่นในช่วงไตรมาสที่ 4/68 ที่แตกต่างจากเดิม

“หากดูข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าจากข้อมูลของกรุงศรี พบว่า ลูกค้าในกลุ่ม Affluent และกลุ่ม Super Affluent ที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายคิดเป็น 40% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยพยุงการเติบโตของพอร์ตบัตรเครดิตในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าปีนี้กลุ่มนี้มียอดใช้จ่ายน้อยลง และลดการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเห็นสัญญาณลดค่าใช้จ่ายแบบวงกว้างทุกกลุ่ม สำหรับกลุ่มที่เห็นการเติบโตบ้าง จะเป็นกลุ่มแบบผ่อนชำระ”

ด้านนายอธิป ศิลป์พจีการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2568 มีความท้าทายเช่นเดียวกับธุรกิจบัตรเครดิต โดยยอดสินเชื่อคงค้างลดลง 5% จากปีก่อนที่ 4.94 แสนล้านบาท มาอยู่ที่ 4.69 แสนล้านบาท มูลค่าตลาดหายไปราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่อง 2 ปี 

ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สินเชื่อส่วนบุคคล มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นและลง โดยจุดสูงสุด (พีก) อยู่ที่ 4.3% ในช่วงเดือนก.ย.67 เทียบเท่าในช่วงการระบาดของโควิด-19 และทยอยลดลงในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยเดือนธ.ค.68 อยู่ที่ 3.9% และเดือนมี.ค.68 อยู่ที่ 3.7% สะท้อนผู้ประกอบการมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

“ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้สินเชื่อมากขึ้นและต้องการลดภาระการใช้สินเชื่อในสถานการณ์ความไม่แน่นอนจึงส่งผลให้มีการใช้สินเชื่อที่ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ควบคู่กับมาตรการการควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง”