Talk of The Town

เปิดงบ 6 เดือนปี 68 ร้านสุกี้เจ้าดัง เอ็มเค-สุกี้ตี๋น้อย กำไรทรุดหนัก! ท่ามกลางสงครามราคาเดือด?


14 สิงหาคม 2568

น่าสนใจสำหรับผลประกอบการรอบ 6 เดือนปี 2568 ของ 2 บริษัทสุกี้เจ้าดังอย่าง บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M และบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (สุกี้ตี๋น้อย หรือ Suki Teenoi)

เปิดงบ 6 เดือนปี 68 ร้านสุกี้เจ้าดัง_S2T (เว็บ) copy_.jpg

โดยอ้างอิงจากรายงาน บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART  ระบุว่า งวด 6 เดือน 2568 ที่ผ่านมา สุกี้ตี๋น้อย มีผลกำไรสุทธิ 582 ล้านบาท  ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 Suki Teenoi มีสาขาทั้งหมด 86 สาขา Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 4 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมียม) 1 สาขา

และหากเข้าไปสำรวจรอบ 6 เดือนปี 2567 พบว่า JMART  รายงาน ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 บริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากสุกี้ตี๋น้อย 183 ล้านบาท (อ้างอิงสัดส่วนถือหุ้น 30%) เท่ากับว่างวด 6 เดือนปี 2567 สุกี้ตี๋น้อย มีกำไรประมาณ 610 ล้านบาท

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จากตัวเลขกำไร สุกี้ตี๋น้อย งวด 6 เดือน 2568 ที่ผ่านมา สุกี้ตี๋น้อย ที่มีผลกำไรสุทธิ 582 ล้านบาทดังกล่าว ลดลง 4.5% จาก งวด 6 เดือนปี 2567

ในฝั่งของ ประกอบการ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M งวด 6 เดือนปี 2568 มีกำไรสุทธิ 509 ล้านบาท ลดลงกว่า 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 นั้นเท่ากับ 7,334 ล้านบาท ลดลง 8.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมก็ได้ปรับลดลงร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 3,793 ล้านบาท ลดลง 314 ล้านบาท หรือลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยอดขายสาขาเดิมก็ได้ปรับลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยให้เห็นผลว่า จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง อันเนื่องมาจากค่าครองชีพที่สูงและภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารที่ค่อนข้างรุนแรง

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายน ร้านเอ็มเคสุกี้ได้มีการจัดทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ ในราคา 299 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมในเดือนมิถุนายนมีการเติบโต 9.2%

นอกจากนี้ไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 2,474 ล้านบาท ลดลง 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการก็ได้ปรับลดลงจาก 67.2% ในไตรมาส 2 ของปี 2567 เป็น 65.2% เกิดจากการจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึง ราคาต้นทุนวัตถุดิบของสินค้าบางชนิดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่งผลทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 276 ล้านบาท ลดลง 31.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า