รู้หรือไม่! หากราคาหุ้น THAI เพิ่มทุก 2 บาท จะดันกำไร KTB กว่า 2 พันล้าน
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB คืออีกหนึ่งบริษัทที่รับผลบวกจากการที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI โดยบริษัทถือหุ้น THAI จำนวนกว่า 1,327,322,126 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.69% ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบว่า เงินลงทุนใน THAI จะถูกตีมูลค่าผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) ทำให้เมื่อราคาเพิ่มขึ้น จะมีบันทึกกำไรจากการลงทุนด้วย
หากอ้างอิงความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า ประเด็นเรื่อง THAI ช่วงไตรมาส 3/2568 จะมีการ upgrade stage ขึ้นมาจากเดิมที่เป็น NPL ราว 3 พันล้านบาท นอกจากนี้จะมี Reverse สำ รองบางส่วนเข้ามา และจะมีการบันทึกเป็นเงินลงทุน ใน FVTPL ผ่านงบกำไรขาดทุน
ทั้งนี้ได้ทำ sensitivity หากราคาหุ้น THAI ขึ้นทุกๆ 2 บาท (จากราคาต้นทุนที่ 2.5452 บาทต่อหุ้น) จะมีกำไรจากเงินลงทุนหลังหักภาษีใน FVTPL ราว 2.12 พันล้านบาท หรือ คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิของ KTB ปี 2568 ที่ 4.7% และจะเป็นบวกต่อ BVS ที่ 0.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายที่ 0.12 บาทต่อหุ้น (Fig 2) ขณะที่ราคาหุ้น THAI ปัจจุบันขึ้นมาแล้วราว 10 บาท จากต้นทุนของ KTB ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมาย ขึ้นมาอยู่ที่ 27 บาท
ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า KTB นั้นเป็น 1 ในธนาคารเจ้าหนี้ของ THAI ซึ่งในช่วงการฟื้นฟู KTB ได้ใช้สิทธิ์แปลงหนี้เป็นทุน ทำให้ในขณะนี้ KTB ถือหุ้น THAI อยู่ 1.3 พันล้านหุ้น หรือ 5.7% ซึ่งต้นทุนหุ้นอยู่ที่เพียง 2.54 บาทเท่านั้น
และ KTB นั้นถือหุ้น THAI เป็นแบบ Available for sell ซึ่งจะต้องทำการ Mark to market หรือ ตีมูลค่าตามราคาตลาด ทุกไตรมาส โดยหากเทียบราคาปิดวันที่ 7 ส.ค. ที่ 13.40 บาท จะทำให้ KTB มี Unrealized gain สูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท
โดยข้อกำหนดจากแผนฟื้นฟูห้ามเจ้าหนี้ขายหุ้น 1 ปีหลังจากที่ THAI กลับเข้าทำการซื้อขาย และหลังจากครบ 6 เดือน ขายหุ้นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่ถูกห้ามขาย
นอกจากนี้ทาง KTB ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะปรับสินเชื่อของ THAI ให้เป็นสินเชื่อปกติ รวมไปถึงพิจารณาสำรองที่ตั้งไว้สำหรับกรณีนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความ Conservative คาดว่า KTB จะมีการรับรู้กำไรจากการถือหุ้น THAI ในปี 68 – 69 ประมาณปีละ 6.5 พันล้านบาท ปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิมที่แนะนำ “ถือ” ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 26.50 บาท
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนในการบินไทย KTB ได้จัดประเภทการลงทุนนี้เป็น FVTPL โดยตามการคำนวณของฝ่ายวิจัย ต้นทุนลงทุนของ KTB อยู่ที่ 2.5 บาทต่อหุ้น KTB อาจบันทึกกำไรจากการลงทุนในไตรมาส 3/2568 (หลังหักภาษี) ประมาณ 8 พันล้านบาท หรือ 0.6 บาทต่อหุ้น
หาก KTB ไม่บันทึกต้นทุนพิเศษใดๆ ในไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นประมาณ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท จากระดับปกติที่ประมาณ 1.-1.1 หมื่นล้านบาท
ส่วนการคืนผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น: KTB ยังคงให้ความสำคัญกับการคืนผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนปันผล (Dividend Yield) เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นหลัก ผู้บริหารจะยังคงมุ่งมั่นที่จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงกว่าคู่แข่ง โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าเงินปันผลสำหรับปี 2568 จะอยู่ที่ 1.6 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 7%
ยอดนิยม
_0.jpg)
PTT แจ้งงบวันนี้ โบรกฯ คาดมีปันผล 0.75 บาท แม้ไตรมาส 2 กำไรอาจดิ่งกว่า 46%

จับตาวันนี้! ประชุม กนง. นักวิเคราะห์ผสานเสียงลดดอกเบี้ยแน่! หลังเงินเฟ้อไทยมีแววติดลบต่อเนื่อง
%20copy_0.jpg)
แบงก์กรุงศรีฯ รุกหนัก! ลุยซื้อหุ้น TIDLOR ก้อนโต ดันสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 46.51%
_0.jpg)
ไทยแกร่ง! ทอง-ทุนสำรองล้น ทิ้งห่างกัมพูชาหลายช่วงตัว
%20copy.jpg)