ไขข้อสงสัย BBL จะบันทึกผลตอบแทนถือ THAI แบบไหน? หลังมีต้นทุนเพียง 2.54 บาท
ความฮอตของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่หวนเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ทำให้บริษัทที่ถือครองหุ้นการบินไทยมีความมั่งคั่งตามไปด้วยอย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวนกว่า 2,407,879,062 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.51%
แต่นักลงทุนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า BBL มีต้นทุนถือหุ้น THAI อยู่ที่เท่าไหร่ และจะบันทึกผลตอบแทนจากการถือหุ้นออกมาให้รูปแบบไหน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลจากการกลับเข้ามาซื้อขายของการบินไทย (THAI) ผู้บริหารไม่ระบุว่าปัจจุบัน THAI มีมูลหนี้คงเหลือเท่าไหร่ แต่ให้กรอบทางบัญชีว่าหลัง THAI กลับมาซื้อขายใน SET จะถูกปรับชั้นลูกหนี้ขึ้นจากเดิมที่เป็นลูกหนี้ Stage 3 และทำให้ NPL ของ BBL ลดลงไปได้
อย่างไรก็ดี BBL ได้ใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนไปแล้วราว 6,100 ล้านบาท (คิดที่มูลค่าแปลง 2.5452 บาทต่อหุ้น) ทำให้ปัจจุบันถือหุ้น THAI อยู่ 2,408 ล้านหุ้น หรือ 8.51% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งถูกบันทึกเป็นเงินลงทุนที่ตีมูลค่าผ่านงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ (FVTOCI) สะท้อนนโยบายถือลงทุนระยะยาว และ จะไม่มีการปรับมูลค่าตามราคาตลาด รับรู้เฉพาะรายได้จากเงินปันผลเพียงอย่างเดียว
ส่วนสำรองที่เคยตั้งไว้ แม้จะไม่มีการโอนกลับรายการ แต่จะถูกนำมาใช้เป็นสำรองส่วนเกินในกรณีอื่น ช่วยลดภาระในการตั้งสำรองในอนาคต
เช่นเดียวกันกับความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า BBL เผยไม่มีนโยบายกลับสำรอง แต่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นได้ หากลูกหนี้ชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ (ตาม TFRS 9 ชำระติดกัน 3 งวด เลื่อนขึ้นเป็น Stage 2 และจ่ายติดกันอีก 9 งวด จึงกลับสู่ Stage 1)
ด้านเงินลงทุนในหุ้น THAI ที่ได้จากการแปลงหนี้เป็นทุนที่ราคา 2.5452 บาท (ณ 14 มี.ค. ถือหุ้นอยู่ 2.4 พันล้านหุ้น) มีความเป็นไปได้ว่าจะจัดประเภทเป็น FVTOCI (การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นหรือทำธุรกรรมขาย จะรับรู้ผ่านส่วน ของผู้ถือหุ้น โดยไม่รับรู้ในงบกำไรขาดทุน)
ในมุมฝ่ายวิจัย แม้ BBL กล่าวว่าไม่มีนโยบายกลับสำรอง แต่หาก THAI มีการเลื่อนชั้นขึ้นตาม TFRS 9 เท่ากับว่า BBL มีสำรองส่วนของ THAI เป็นกันชนให้กับความเสี่ยงอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งทำให้ความจำเป็นในการตั้งสำรองใหม่ ข้างหน้าสามารถลดลงได้
ทั้งนี้ ก่อนแปลงหนี้เป็นทุน BBL มีการถือหุ้นใน THAI ราว 9.4 ล้านหุ้น ภายหลังแปลงหนี้เป็นทุนช่วงไตรมาส 4/67 ปรากฎ การถือหุ้นใน THAI ตามจำนวนข้างต้น ประเมินเป็นมูลหนี้ที่ถูกแปลงเป็นทุนอยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท หากอิงตาม เอกสารแนบแผนฟื้นฟู (20 ต.ค. 65) พบว่า BBL มีการปล่อยสินเชื่อให้ THAI ราว 9.3 พันล้านบาท
ดังนั้นหลังแปลง หนี้เป็นทุน จะเหลือมูลหนี้ประมาณ 3.2 พันล้านบาท โดยบนกรณีที่ THAI มีการเลื่อนชั้นขึ้นจาก NPL ในอนาคต จะช่วยให้ NPL / Loan ของ BBL ต่ำลงราว 0.1% จากระดับ NPL งวดไตรมาส 2/68 ตามการคำนวณของฝ่ายวิจัย
สำหรับเงินลงทุนใน THAI ที่ถูกจัดประเภทเป็น FVTOCI สอดคล้องกับมุมมองฝ่ายวิจัย แม้การเคลื่อนไหวของราคา หุ้นไม่มีผลต่องบกำไรขาดทุน แต่การที่ส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น จะช่วยหนุนระดับเงินกองทุน (Tier-1) จาก ณ สิ้นงวดไตรมาส 2/68 ที่ 17.5% (เกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ 9.5%) เชื่อว่าโอกาสในการบริหารโครงสร้างเงินทุน ผ่านการเพิ่ม นโยบายการจ่ายเงินปันผลแบบธนาคารพาณิชย์อื่นในอนาคต ยังมีอยู่ตามความเห็นฝ่ายวิจัย
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
ดีลเลอร์บลจ.บัวหลวงทำแสบ ใช้อินไซด์การลงทุนภายในให้ผู้อื่น ซื้อขายหุ้นตัดหน้ากองทุนช่วงปี 66-67
_0.jpg)
ADVANC ไตรมาส 2 มีกำไร 1 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 28% หลังการดำเนินงานแข็งแกร่ง จ่ายปันผล 6.89 บาท ขึ้น XD วันที่ 19 ส.ค.นี้
_0.jpg)
IRPC ยังไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ขาดทุน 2 พันลบ. แบกขาดทุนสุทธิจากสต๊อกสินค้าเพิ่ม
_0.jpg)
“ฮั่วเซ่งเฮง” จับตาสงครามการค้าเดือด! ภาษีทรัมป์ 7 ส.ค. จุดชนวนเงินเฟ้อโลก วิเคราะห์ฉากทัศน์ทองคำ ทะยานหรือพักฐาน?
%20copy_0.jpg)