Wealth Sharing

จับตาดีล “มิตซูบิชิ” รุกถือ TU ดีลนี้จะลงเอยอย่างไร ใครได้ประโยชน์ ?


05 สิงหาคม 2568

น่าจับตา สำหรับประเด็นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เพราะ “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” (ผู้ยื่นข้อเสนอฯ) ยื่นหนังสือขอซื้อหุ้น TU  เพิ่มอีกกว่า 532 ล้านหุ้น ที่ราคา 12.50 บาท หากธุรกรรมสำเร็จ จะทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นรระดับ 20% จากเดิม 6.19%

จับตาดีล มิตซูบิชิ รุกถือ TU_S2T (เว็บ) copy.jpg

โดยรายละเอียดหลักๆ คือ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น มีประสงค์จะเข้าซื้อหุ้น TU เพิ่มเติม 532,273,639 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.81% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (ไม่รวมหุ้นซื้อคืนที่บริษัทฯ ถืออยู่)

ทำให้ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใน TU รวมทั้งสิ้น 771,018,759 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นที่ออกจจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (ไม่รวมหุ้นซื้อคืนที่บริษัทฯ ถืออยู่)

แต่ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นตอบรับข้อเสนอรับซื้อหุ้นของผู้ยื่นข้อเสนอฯ หรือ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ในจำนวนที่ไม่เพียงพอที่จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ยื่นข้อเสนอฯ ใน TU ถึง 20% ผู้ยื่นข้อเสนอฯ จะยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั้งหมด 

โดยมีราคารับซื้อหุ้นกำหนดไว้ที่ 12.50 บาทต่อหุ้น แต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคารับซื้อหุ้นผู้ยื่นข้อเสนอฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาปรับปรุงราคารับซื้อหุ้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยการ การเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้น ยังไม่มีรายละเอียดออกมาอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอรับซื้อหุ้นของผู้ยื่นข้อเสนอฯ ในครั้งนี้ ไม่ถือเป็นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เพราะเสนอรับซื้อหุ้น TU ในสัดส่วนที่น้อยกว่า 25% 

สำหรับเหตุผล หรือ วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของข้อเสนอรับซื้อหุ้น ในครั้งนี้ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น แจ้งว่าการลงทุนในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพในการเติบโตและแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของ TU รวมถึงความประสงค์ของผู้ยื่นข้อเสนอฯ ที่จะขยายและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับ TU ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ระยะยาวและพันธมิตรที่เชื่อถือได้ของบริษัทฯ

สำหรับ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนแบบบูรณาการ ซึ่งพัฒนาและดำเนินธุรกิจที่หลากหลายในหลายอุตสาหกรรมผ่านเครือข่ายระดับโลกของผู้ยื่นข้อเสนอฯ ที่กว้างขวาง 

ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมของผู้ยื่นข้อเสนอฯ ในด้านการจัดจำหน่าย การค้าระหว่างประเทศ การขนส่งและโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ รวมถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอาหารทะเลระดับโลกของบริษัทฯ

ขณะเดียวกันในรายละเอียดยังบอกว่า มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และ TU มีแผนร่วมมือกันเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการโดยการเข้าลงนามในสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Alliance Agreement) เพื่อการกำหนดความร่วมมือระหว่างกัน การประเมินแนวโน้มการลงทุน และการสำรวจกลยุทธ์การเติบโต 

โดยอาศัยเครือข่ายของ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเข้าถึงตลาดของบริษัทฯ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทฯ เพื่อความสำเร็จในระยะยาวของบริษัทฯ ภายใต้บริบทของตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า TU และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ได้มีการเข้าลงนามในสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2534 เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม ความยั่งยืน และความเป็นเลิศในระดับโลก ภายใต้สัญญาความร่วมมือดังกล่าว มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TU จาก 6.19% เป็น 20% (ไม่นับรวมหุ้นซื้อคืน) ผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั่วไป

การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างไทยยูเนี่ยนและมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่บนรากฐานของความไว้วางใจที่สั่งสมมายาวนานหลายทศวรรษ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจและวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท ในการขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลก 

อีกทั้งจะร่วมกันเร่งสร้างการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก โดยเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และตอกย้ำสถานะของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารทะเล

ทั้งนี้ การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไทยยูเนี่ยน โดยมิตซูบิชิยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 มีตัวแทนนั่งในคณะกรรมการบริษัทตามเดิม และไม่มีผลต่อโครงสร้างทีมผู้บริหารระดับสูงของไทยยูเนี่ยน  

สำหรับการประสานความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนใน 3 ปัจจัยหลัก คือ 

1. การคว้าโอกาสในการสร้างการเติบโตจากความต้องการอาหารทะเลและโซลูชันด้านโภชนาการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การผสานจุดแข็งของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูประดับโลก เข้ากับเครือข่ายการจัดหาและกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงวัตถุดิบในต้นทุนที่แข่งขันได้ และเสริมความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน

2. สร้างการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ตลาดมีความต้องการสูง รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจที่มีศักยภาพสูง เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งล้วนสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

และ 3. ร่วมกันผลักดันเป้าหมายด้านความยั่งยืน ด้วยการประสานกลยุทธ์ SeaChange® 2030 ของไทยยูเนี่ยน เข้ากับมาตรฐานด้านความยั่งยืนระดับโลกของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จร่วมกัน ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ สวัสดิภาพแรงงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อผู้คนและโลก

มุมมองนักวิเคราะห์

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองเป็นกลาง ต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเป็นเพียงข้อเสนอซื้อ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม 

โดยมองว่าถ้าหาก มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นรวม 20% จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TU ซึ่งมองว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TU ในปัจจุบันน่าจะยังคงต้องการรักษาอำนาจในการควบคุมบริหารอยู่ 

ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อ 12.50 บาท คิดเป็น P/E ราว 13.7 เท่า สูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน ดังนั้น ในเชิง Sentiment ของราคาอาจมีการเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มีมุมมองระมัดระวังต่อดีลนี้ เพราะหากรับซื้อคืนสำเร็จ Mitsu จะขยับขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ในสัดส่วน 20% (เต็ม Max จะไม่เข้าถือหุ้นมากกว่านี้ เพราะคิด cap ด้าน Foreign holding) แต่หากรวม TU และกลุ่มครอบครัวของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งรวมกันเบื้องต้นอยู่ที่ราว 30-33% ของหุ้นทั้งหมด จะยังเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะมีการขายหุ้นออกมาให้ Mitsu ด้วยหรือไม่ เพราะจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป และอาจกระทบต่ออำนาจในการตัดสินใจในอนาคต ระหว่างนี้ ราคาหุ้น TU น่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ ไม่เกินราคารับซื้อที่ 12.5 บาท แนะนำชะลอการลงทุน

สำหรับมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เป็นกลุ่มบริษัทระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการ โดยมีเครือข่ายสำนักงานและบริษัทย่อยในกว่า 90 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก รวมทั้งบริษัทในเครือมากกว่า 1,700 แห่ง ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจครอบคลุม 10 ธุรกิจหลัก

ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ วัสดุอุตสาหกรรม ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทรัพยากรแร่ โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม ยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมผู้บริโภค โซลูชันด้านพลังงาน และการพัฒนาเมือง นอกจากธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายสินค้าแล้ว กิจกรรมทางธุรกิจของ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาโครงการ และการผลิต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือทั่วโลก

จับตาดีล มิตซูบิชิ รุกถือ TU_S2T (เพจ) copy.jpg

TU