บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หลังจากที่เผชิญวิบากกรรมมากมายเข้ามากดดันราคาหุ้น ในที่สุดก็ได้มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนราคาหุ้นอย่างการปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ที่จะผลักดันผลประกอบการในอนาคตได้ ซึ่งทางสำนักข่าว Share2Trade จะพาไปเจาะลึกประเด็นดังกล่าวกัน
แต่ก่อนอื่นเราจะพาไปย้อนไทม์ไลน์ของหุ้น AOT กันเสียก่อน ที่เริ่มจากเดือน ก.พ. 67 บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ที่พบเจอกับปัญหาด้านสภาพคล่อง ก็ได้ส่งหนังสือเพื่อขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน
โดยได้ส่งผลให้ราคาหุ้นนับจากเดือน ก.พ. ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากทำให้ในวันที่ 16 มิ.ย. 68 ราคาหุ้นทำสุดต่ำสุดที่ 26.75 บาท ปรับตัวลดลงถึง 55.60% จากจุดสูงสุดในปี 2568 ที่ราคา 60.25 บาท แต่หากนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ วันที่ 24 ก.ค.68) ราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวลงมาราว 34.45% มาอยู่ที่ 39 บาท
แต่หลังจากที่มีประเด็นข่าว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้พูดถึงการสนับสนุนการปรับเพิ่ม ค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) เพื่อนำเงินที่ได้ให้ AOT มีการลงทุนเพิ่ม ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมา โดยหากนับจากราคาปิดในวันที่ 25 ก.ค.68 ที่ 42 บาท ก็ปรับตัวมาถึง 57% จากจุดที่ราคาหุ้นต่ำสุดในปีนี้
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นบวกจากโอกาสการปรับ PSC ที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยปัจจุบัน AOT อยู่ระหว่างการศึกษาขอปรับเพิ่ม PSC หากได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ จะต้องมีการเสนอไปที่ CAAT และ กบร.เพื่ออนุมัติต่อไป โดยประเมินความเป็นไปได้เร็วสุดที่ปรับเพิ่มจะเป็นช่วงต้นปี – กลางปี 69
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความคืบหน้าอีกครั้งโดยหากมีการปรับเพิ่ม PSC ประเมินการเพิ่ม PSC ผู้โดยสารระหว่าง ทุก 100 บาท (ปัจจุบันอยู่ที่ 730 บาทต่อคน) จะช่วยเพิ่มอัพไซด์ต่อกำไรราว 15% - 16% และช่วยเพิ่มราคาเป้าหมายได้ราว 4.50-5.00 บาท
ขณะเดียวกัน ประเมิน PSC ผู้โดยสารในประเทศ ที่เพิ่มทุกๆ 50 บาท (ปัจจุบันอยู่ที่ 130 บาทต่อคน) จะช่วยเพิ่มอัพไซด์ต่อกำไรได้อีกราว 6% - 7% ซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาเป้าหมายได้ราว 1.50 - 2.00 บาท จึงยังคงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท (ยังไม่รวมผลจาก PSC) โดยราคาหุ้นที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้สะท้อนการปรับเพิ่ม PSC ไปบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ราคาหุ้น AOT ที่ปรับขึ้นปัจจุบัน คาดว่าจะสะท้อนการปรับ PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ระดับ 100 บาทและปรับ PSC ผู้โดยสารในประเทศ 50-100 บาทแล้ว แต่หากมีการปรับเพิ่มมากกว่านี้จะเป็นผลบวกกับราคาหุ้นเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ดียังคงต้องรอความชัดเจนการปรับ PSC รวมถึงการเจรจาปรับลด MG กับคิงเพาเวอร์ ที่จะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือน ซึ่งมีโอกาสกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นได้
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า ข่าวที่ออกมาถือเป็นเชิง บวกจากการสนับสนุนของรัฐบาล หากมีการอนุมัติให้ปรับขึ้นในอัตรา 100 บาทตามข่าว ขาออกระหว่างประเทศจาก 730 บาท เป็น 830 บาท และในประเทศจาก 130 บาท เป็น 230 บาท
บนคาดการณ์ว่าจะใช้ค่า PSC ใหม่ในครึ่งปีหลัง 2569 เบื้องต้นรายได้จะเพิ่มขึ้นราว 2.4 พันล้านบาท และไปรับรู้เต็มปีในปี 2570 ที่ราว 5.9 พันล้านบาท จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมในปี 2569 ที่ 13,377 ล้านบาทอีกราว 19% และปี 2570 ที่ 14,443 ล้านบาทอีกราว 44% ที่รับรู้เต็มปี
อย่างไรก็ตาม บนประมาณการเดิม ราคาพื้นฐานที่ 34.25 บาท แต่หากได้ปรับขึ้น 100 บาท และตามระยะเวลาที่คาดการณ์ ไว้ ราคาพื้นฐานจะปรับขึ้นเป็น 42.50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ขาย” เป็น “ถือ” เพื่อรอผลสรุปค่า PSC
ยอดนิยม
_0.jpg)
อย่าประมาทหุ้นไทยพุ่ง โบรกฯ เตือนถือครองเงินสด แนะนำทยอยขายทำกำไร
_0.jpg)
SCGD งบครึ่งปีฟันกำไร 439 ลบ. แจกปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท มองครึ่งปีหลังยังสดใสรับดีมานด์ขึ้น
_0.jpg)
SCC แจงงบ Q2/68 วันนี้ โบรกฯชี้โกยกำไร 2.76 พันลบ. หลังสเปรดปิโตรฯปรับตัวดีขึ้น
_0.jpg)
กลุ่ม ปตท.วันนี้เดอะแบก! หนุน SET Index กว่า 2.9 จุด โบรกฯ ชู PTT เด่นเป้าหมายฟันด์โฟลว์
_0.jpg)